27 ตุลาคม 2563, กรุงเทพ - นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในช่วงปลายฤดูฝน เข้าสู่ต้นฤดูหนาวเป็นช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง และอาจส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนได้ โดยเฉพาะโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RAV (Respiratory Syncitial Virus) ก็เป็นอีกโรคหนึ่ง ที่มีเชื้อไวรัสเป็นสาเหตุของการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี จะพบการระบาดได้บ่อยในช่วงฤดูฝนหรือปลายฝนต้นหนาว
โรคติดเชื้อ RAV เป็นโรคที่มีความคล้ายคลึงกับไข้หวัดทั่วไป แต่อาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นทำให้ปอดอักเสบได้ ทั้งนี้ โรคติดเชื้อ RSV กำลังระบาดหนัก หลายโรงพยาบาลเตียงเต็มแล้วไม่สามารถรับผู้ป่วยเพิ่มได้
โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV คืออะไร
ในช่วงปลายฝนต้นหนาว โรคติดเชื้อ RSV เป็นโรคที่มักพบในเด็กทารกและเด็กเล็ก โดยเชื้อไวรัสนี้ทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบได้ โดยเฉพาะในส่วนของหลอดลมเล็ก และถุงลม ทำให้มีการสร้างสารคัดหลั่ง เช่น เสมหะ ออกมาในปริมาณมาก และมีการหดตัวของหลอดลม เนื่องจากการบวมของเยื่อบุหลอดลมและทางเดินหายใจ ส่งผลให้เด็กมีอาการหอบ เหนื่อย และหายใจลำบาก เชื้อนี้ติดต่อกันได้โดยการสัมผัสใกล้ชิดกับสารคัดหลั่งต่าง ๆ ของผู้ป่วย เช่น น้ำมูก น้ำลาย เสมหะ
เชื้อ RSV ค้นพบในปี พ. ศ. 2498 และพบครั้งแรกในลิงชิมแปนซี พบการระบาดในคนช่วงปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาว ในประเทศไทย จะพบไวรัสตัวนี้ระบาดในช่วงเดือนมิถุนายนถึงตุลาคม โดยจะมี ไวรัสแบ่งเป็น 2 กลุ่มย่อย คือกลุ่ม A และกลุ่ม B มีระยะฟักตัว 2-8 วัน ติดต่อทางการสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก เสมหะ และลองฝอย
อาการของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV
อาการของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV อาจคล้ายกับอาการไข้หวัดธรรมดา เช่น เป็นไข้ ซึ่งส่วนใหญ่อาจจะเป็นไข้ไม่สูง อาจมีอาการไอ จาม แต่ก็มีอาการที่คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกต เช่น
- มีอาการเหนื่อยหอบ
- หายใจเร็วและแรง
- หายใจครืดคราด
- มีอาการตัวเขียว
- มีเสียงหวีดในปอด อันเกิดจากเยื่อบุทางเดินหายใจบวมอักเสบและหลอดลมหดตัว
- มีเสมหะมาก
- ไอโขลกๆ
แพทย์รักษาโรคติดเชื้อ RSV อย่างไร
ในเด็กเล็กที่อ่อนแอมาก เช่น เด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนด เด็กที่มีโรคหัวใจ โรคปอด และหอบหืดอยู่แล้ว อาจมีอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว ในบางราย อันนี้อาการหยุดหายใจเป็นช่วง ๆ และหยุดหายใจ จนต้องนำเข้าหอพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตและอาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจด้วย
อาการของโรคจะเริ่มในช่วง 5-7 วัน บางรายในช่วง 1-2 วันแรกจะมีอาการไม่รุนแรง แต่ในช่วงวันที่ 3-5 จะมีอาการรุนแรงมากจากนั้นอาการจะทรุดลงเรื่อยๆ
ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคติดเชื้อ RSV โดยเฉพาะ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วแพทย์จะรักษาผู้ป่วยตามอาการ เช่นกันดูแลเรื่องการหายใจ และการขับเสมหะ บางรายใช้วิธีการรักษาด้วยยา เช่นให้ยาแก้ไอละลายเสมหะ ยาขยายหลอดลม ยาลดไข้ และยาพ่น ตามแต่อาการของผู้ป่วย ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นได้ในผู้ป่วยที่มีอาการเหนื่อย หายใจไม่ค่อยดี และเริ่มมีออกซิเจนในเลือดต่ำลง การรักษาจะเป็นไปในรูปแบบประคับประคอง เช่น ให้สารน้ำทางหลอดเลือด ให้ยาพ่นเพื่อขยายหลอดลม ใช้วิธีเคาะปอด ใช้การดูดเสมหะ รวมถึงการให้ออกซิเจน ส่วนในรายที่มีอาการหนักมาก ก็จะต้องใส่ท่อช่วยหายใจและดูแลในหอพยาบาลผู้ป่วยวิกฤต จนกว่าอาการจะดีขึ้น
เพราะอะไรอาการจึงรุนแรงและหนักขึ้น
ผู้ป่วยโรคติดเชื้อ RSV มักมีอาการหนักขึ้นจากการติดเชื้อแทรกซ้อนด้วยไวรัสชนิดอื่น ๆ เช่น เชื้อไข้หวัดใหญ่ เชื้อไมโครพลาสม่า หรือเชื้อแบคทีเรียอื่น ๆ ทั้งนี้ แพทย์จะพิจารณาให้การรักษาที่ครอบคลุมการติดเชื้อเหล่านี้ตามความเหมาะสม
เคยเป็นโรคติดเชื้อ RSV แล้วเป็นซ้ำได้หรือไม่
โรคติดเชื้อ RSV สามารถเกิดซ้ำได้ แต่หากเคยเป็นครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งต่อไปก็จะไม่รุนแรงมากเท่ากับครั้งแรก