เช็คสุขภาพ : ที่นี่ ... มีคำตอบให้ทุกคำถามเกี่ยวกับสุขภาพของท่าน
หน้าแรก / บทความ / เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis)
โดย : มาเรียม เล็กหีม
ทบทวนบทความโดย : ทีมเช็คสุขภาพ
เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis)

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) เป็นภาวะเยื่อบุเมือกเรียกว่า เยื่อบุโพรงมดลูกซึ่งปกติบุภายในโพรงมดลูกนั้น เจริญภายนอกมดลูก ภาวะนี้อาจเกิดขึ้นได้ในรังไข่ ท่อนำไข่ และเยื่อบุช่องท้องในอุ้งเชิงกราน อย่างไรก็ตาม เนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกอาจจะไม่กระจายไปนอกอวัยวะอุ้งเชิงกราน

ในภาวะปกติแล้วเยื่อบุเจริญหนาตัวขึ้น จากนั้นเสื่อมสลายหลุดลอก และสุดท้ายไหลออกมาเป็นเลือดประจำเดือนในแต่ละรอบเดือน ส่วนในภาวะผิดปกตินั้นเยื่อบุหลุดออกจากมดลูกแต่ยังสามารถผลิตเลือดประจำเดือนได้ตามปกติ อย่างไรก็ตามเมื่อเยื่อบุเสื่อมสลายหลุดลอกแล้ว เลือดไม่มีทางไหลออกมายังคงคั่งค้างอยู่ เมื่อสภาวะที่เลือดคั่งค้างนี้เกิดในรังไข่ก็จะก่อตัวกลายเป็นซีสต์ที่เรียกว่า ช็อกโกแลตซีสต์

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดซึ่งบางครั้งสามารถเข้าขั้นร้ายแรงโดยเฉพาะระหว่างมีรอบเดือน ภาวะนี้อาจประสบปัญหาพัฒนาการภาวะเจริญพันธุ์ อย่างไรก็ดีมีการรักษาที่มีประสิทธิภาพสำหรับภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ได้

อาการและอาการแสดงของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

อาการปวดท้องน้อยเป็นอาการขั้นต้นของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ อาจเกิดขึ้นในช่วงมีประจำเดือน แม้ว่าจะรู้สึกปวดเกร็งช่วงมีรอบเดือน อาการปวดจากภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่อาจแย่ลงมากกว่าที่คิด และเมื่อเวลาผ่านไปอาการปวดยิ่งทวีขึ้น

นอกเหนือจากอาการปวดท้องน้อยแล้วนั้น อาการและอาการแสดงของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ยังรวมไปถึง

  • อาการปวดประจำเดือน: อาการปวดรอบเดือนหรืออาการปวดเกร็งท้องน้อยเมื่อมีรอบเดือนอาจเกิดขึ้นก่อนวันมีประจำเดือนมาและอาจจะมีอาการต่อเนื่องหลายวัน บางกรณีอาจรู้สึกปวดบริเวณช่องท้องและหลังส่วนล่าง
  • อาการปวดขณะมีเพศสัมพันธ์: อาจประสบกับอาการปวดลึกจากภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ในขณะหรือหลังจากมีเพศสัมพันธ์
  • มีอาการปวดท้องน้อยร่วมกับการถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะ: อาการดังกล่าวเกิดขึ้นขณะมีประจำเดือน
  • ภาวะเลือดไหลออกมากกว่าปกติ: ภาวะประจำเดือนมามากหรือนานกว่าปกติเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ช่วงรอบเดือนเกิดขึ้นได้เช่นกันซึ่งเรียกว่าเป็น ภาวะเลือดออกระหว่างรอบประจำเดือน
  • ปัญหาการมีบุตร: ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่อาจวินิจฉัยพบเป็นขั้นแรก โดยเฉพาะเมื่อกรณีรักษาภาวะมีบุตรยาก
  • อาการเพลีย ท้องร่วง ท้องผูก ท้องอืด หรือคลื่นไส้ โดยเฉพาะขณะมีประจำเดือน

อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงของอาการปวดไม่ได้บ่งชี้ถึงภาวะของโรคเสมอไป คุณอาจมีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่เพียงเล็กน้อยแม้ว่ามีอาการปวดรุนแรง คุณอาจะมีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่มากแล้วแต่มีอาการปวดเพียงเล็กน้อย

เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ในบางครั้งสามารถเข้าใจผิดว่าเป็นภาวะอื่น อาทิ โรคปีกมดลูกอักเสบหรืออุ้งเชิงกรานอักเสบ (PID) หรือ ซีสต์รังไข่ (ถุงน้ำในรังไข่) นั้นทำให้เกิดอาการปวดท้องน้อย เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่นี้อาจเข้าใจผิดได้เช่นกันว่าเป็นโรคลำไส้แปรปรวน (IBS) ซึ่งเป็นภาวะที่ส่งผลให้เกิดอาการท้องร่วง ถ่ายอุจจาระลำบาก และมีอาการปวดเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง

ความจำเป็นในการพบแพทย์

แนะนำให้พบแพทย์เมื่อมีอาการและอาการแสดงของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

สาเหตุของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

สาเหตุของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ยังไม่แน่ชัด อย่างไรก็ดี สาเหตุนั้นอาจเป็นได้ ดังนี้

  • ประจำเดือนไหลย้อนกลับเข้าไปในช่องท้องและอุ้งเชิงกราน: ในภาวะปกตินั้นเลือดประจำเดือนกับเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกไหลออกมานอกร่างกาย ในทางกลับกัน ภาวะผิดปกติเลือดจะไหลย้อนกลับผ่านท่อนำไข่รวมถึงไหลเข้าสู่ช่องท้องน้อยหรือช่องเชิงกราน อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ บรรดาเซลล์เกาะอยู่กับผนังอุ้งเชิงกรานและพื้นผิวอวัยวะช่องเชิงกราน เมื่อเวลาผ่านไปก็กลายตัวหนาขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเลือดไหลออกมาตามรอบเดือน
  • การเปลี่ยนรูปของเซลล์เอ็มบริโอหรือเซลล์ตัวอ่อน: ภาวะที่ฮอร์โมน เช่น แอสโตรเจนอาจเปลี่ยนเซลล์เอ็มบริโอให้กลายเป็นเซลล์คล้ายเยื่อบุโพรงมดลูกฝังตัวช่วงวัยเจริญพันธุ์
  • การฝังตัวในเนื้อเยื่อของรอยแผลเป็นจากการผ่าตัด: ภายหลังจากการผ่าตัด อาทิ การผ่าตัดมดลูกหรือการผ่าตัดทำคลอด รอยแผลจากการผ่าตัดอาจไปยึดด้วยการฝังตัวของแผลเป็นหลังผ่าตัด
  • การเคลื่อนย้ายของเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกไปยังอวัยวะส่วนอื่นของร่างกาย: เซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกอาจเคลื่อนไปยังส่วนอื่นของร่างกายผ่านทางหลอดเลือดและต่อมน้ำเหลือง
  • ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน: ในบางกรณีระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดพลาด ไม่สามารถจดจำและทำลายเนื้อเยื่อคล้ายเยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญนอกมดลูกได้

ปัจจัยเสี่ยงของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

ปัจจัยที่เพิ่มอัตราการเกิดเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่มีหลายประการ ประกอบไปด้วย

  • ไม่เคยมีบุตรมาก่อน
  • เริ่มมีประจำเดือนตั้งแต่อายุยังน้อย
  • หมดประจำเดือนช่วงอายุล่าช้ากว่าปกติ
  • รอบเดือนสั้นกว่าสตรีส่วนใหญ่ทั่วไป เช่น รอบเดือนน้อยกว่า 27 วัน
  • ประจำเดือนออกมามากซึ่งนานกว่า 27 วัน
  • มีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงเกินหรือได้รับฮอร์โมนมาเป็นระยะเวลานาน
  • ค่าดัชนีมวลร่างกาย (BMI) ต่ำกว่าเกณฑ์
  • มีประวัติญาติพี่น้องฝ่ายหญิง เช่น มารดา ป้า น้าสาว หรือพี่สาว เคยเป็นเยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ
  • มีปัญหาสุขภาพที่ทำให้เลือดประจำเดือนไม่สามารถไหลออกมาได้อย่างปกติ

ทางเดินระบบสืบพันธุ์มีปัญหา

โดยปกติแล้วเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่กว่าจะก่อตัวขึ้นใช้เวลานานหลายปีภายหลังรอบประจำเดือนแรก อาการและอาการแสดงอาจตรวจไม่พบชั่วคราวช่วงตั้งครรภ์และเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่อาจหมดไปในช่วงหมดประจำเดือน

แพทย์วินิจฉัยเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่อย่างไร

เมื่อพบแพทย์คุณจะถูกซักประวัติอาการที่เกิดขึ้น ตำแหน่งที่ปวดรวมทั้งอาการปวดที่เกิดขึ้นในขั้นวินิจฉัยเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

นอกจากนี้ แพทย์ตรวจบางประการเพื่อค้นหาร่องรอยทางร่างกายของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ดังต่อไปนี้

  • ตรวจภายในอุ้งเชิงกรานสตรี: แพทย์ตรวจคลำหาความผิดปกติบริเวณอุ้งเชิงกราน เพื่อต้องการรู้ว่าคุณมีซีสต์ในอวัยวะสืบพันธุ์หรือแผลเป็นหลังมดลูกหรือไม่ กรณีส่วนใหญ่เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ขนาดเล็กมักตรวจพบไม่ง่ายนักหากพื้นที่นั้นๆ ไม่มีการก่อตัวของซีสต์
  • อัลตร้าซาวด์: แพทย์ใช้เครื่องมือที่เป็นเครื่องเสียงความถี่สูงกดลงไปบริเวณท้องหรือสอดใส่ไปในช่องคลอดเพื่อสังเกตดูรูปแสดงอวัยวะสืบพันธุ์ภายใน การตรวจทั้งสองประการนี้เป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้ในการวินิจฉัยเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ แม้ว่าวิธีดังกล่าวไม่ช่วยให้ตรวจโรคได้โดยตรงก็ตาม แต่ทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยซีสต์ที่เกี่ยวโยงกับเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ได้
  • การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI): การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอาจจำเป็นในบางกรณีซึ่งเป็นการตรวจที่ใช้คลื่นสนามแม่เหล็กและคลื่นวิทยุที่ให้รายละเอียดภาพอวัยวะและเนื้อเยื่อภายในร่างกาย การตรวจวินิจฉัยช่วยบอกตำแหน่งและขนาดของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่แก่ศัลยแพทย์หรือแพทย์ผ่าตัดได้
  • การใช้กล้องส่องตรวจช่องท้อง:  บางกรณีจำเป็นต้องนำกระบวนการใช้กล้องส่องตรวจช่องท้องที่ให้ภาพภายในช่องท้องที่ชัดเจนกว่า การใช้กล้องส่องตรวจจำเป็นต้องดมยาสลบแบบทั่วไปแก่ผู้ป่วย ศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดเล็กใกล้บริเวณสะดือและสอดกล้องโทรทรรศน์ขนาดจิ๋วเข้าไปภายในเพื่อค้นหาอาการแสดงของเยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญอยู่ภายนอกมดลูก วิธีการใช้กล้องส่องตรวจช่องท้องนี้ทำให้แพทย์ผ่าตัดสามารถระบุตำแหน่งและขนาดของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ได้ รวมถึงอาจนำเนื้อเยื่อตัวอย่างไปตรวจหาเพิ่มเติมได้ หากศัลยแพทย์มีการวางแผนที่ดีแล้วจะสามารถรักษาเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ระหว่างการส่องกล้องตรวจช่องท้องไปพร้อมกับการตรวจวินิจฉัยซึ่งทำให้คุณรับการผ่าตัดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

การรักษาเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่:

กรณีส่วนใหญ่ของโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่นั้นมีรูปแบบการรักษาโดยการให้ยาและผ่าตัด วิธีการรักษาขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการและอาการแสดงที่เป็นและความต้องการมีบุตร

แพทย์มักจะแนะนำให้รับการรักษาแบบเดิมก่อนเป็นลำดับแรก หากไม่ได้ผลจึงจะใช้การรักษาโดยการผ่าตัด

  • การรักษาด้วยยาบรรเทาปวด: ในเรื่องอาการปวดนั้นแพทย์จะแนะนำให้รับประทานยาบรรเทาปวดตามร้านขายยาทั่วไปเพื่อใช้ระงับปวดจากอาการปวดประจำเดือน และหากคุณไม่ได้ต้องการตั้งครรภ์แล้วอาจได้รับคำแนะนำให้เลือกใช้วิธีฮอร์โมนบำบัดร่วมกับยาบรรเทาปวด
  • การบำบัดด้วยฮอร์โมน: ฮอร์โมนเสริมบางตัวอาจมีประสิทธิภาพช่วยลดหรือขจัดอาการปวดจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ได้ในบางครั้ง ระดับฮอร์โมนที่แปรปรวนขณะมีประจำเดือนอาจเป็นสาเหตุทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาขึ้นได้ซึ่งต่อมาอาจหลุดลอกและมีเลือดไหลออกมา การเจริญของเยื่อบุโพรงมดลูกชะลอตัวลงได้ด้วยกับการบำบัดด้วยฮอร์โมน ทั้งนี้การบำบัดด้วยฮอร์โมนช่วยป้องกันเยื่อบุโพรงมดลูก อย่างไรก็ดีการบำบัดด้วยฮอร์โมนไม่ใช่วิธีการรักษาเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ให้หายขาด หากคุณหยุดการรักษาอาการจะกลับมาเป็นอีกได้

การบำบัดรักษาเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่มีหลายประการ ดังนี้

  • วิธีการบำบัดด้วยฮอร์โมนจากการคุมกำเนิด: การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด แผ่นแปะคุมกำเนิด และห่วงคุมกำเนิด ในแต่ละเดือนนั้นช่วยควบคุมฮอร์โมนที่ส่งผลต่อการก่อตัวของเยื่อบุโพรงมดลูก ส่วนใหญ่แล้วผู้ใช้ฮอร์โมนคุมกำเนิดมีเลือดประจำเดือนไหลน้อยกว่าเดิมในช่วงการใช้ยาคุมกำเนิดช่วยบรรเทาหรือขจัดอาการปวดได้
  • ยาสังเคราะห์ควบคุมการหลั่งฮอร์โมนโกนาโดโทรปิน (GnRH): การรับประทานยาชนิดนี้ส่งผลให้การผลิตฮอร์โมนกระตุ้นรังไข่หยุดชะงัก รวมทั้งระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง สัมพันธ์กันโดยป้องกันไม่ให้มีประจำเดือน ขณะอยู่ในช่วงใช้ยาเยื่อบุโพรงมดลูกจะหดตัว ยาประเภทนี้สร้างภาวะวัยหมดประจำเดือนแบบเทียม นอกจากนี้ การรับฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือโปรเจสตินร่วมกับยาสังเคราะห์ควบคุมการหลั่งฮอร์โมนทั้ง GnRH agonist (จีเอ็นอาร์เอช อะโกนิสต์ ซึ่งใช้ก่อนและระหว่างการกระตุ้นรังไข่) และ GnRH antagonist (จีเอ็นอาร์เอช แอนทาโกนิสต์ ซึ่งใช้หลังการกระตุ้นรังไข่ )นั้น อาจลดผลข้างเคียงจากภาวะหมดประจำเดือน ผลข้างเคียงต่างๆนั้นประกอบไปด้วยรู้สึกร้อนวูบวาบฉับพลัน ช่องคลอดหล่อลื่นและสุขภาพไม่ดี และสูญเสียความหนาแน่นของมวลกระดูก เมื่อคุณหยุดใช้ยาแล้วคุณจะมีประจำเดือนและสามารถกลับมามีบุตรได้ตามปกติ
  • การบำบัดด้วยฮอร์โมนโปรเจสติน: ห่วงอนามัยคุมกำเนิดหรือไอยูดี (IUD) ที่ประกอบด้วยสารโปรเจสตินสังเคราะห์ เช่น ไมรีนา (Mirena) เป็นก้านพลาสติกยืดหยุ่นขนาดเล็ก หรือยาฝังคุมกำเนิดอย่าง เน็กซ์พลานอน (Nexplanon) ยาฉีดคุมกำเนิดดีโป-โปรวีรา (Depo-Provera) และยาคุมกำเนิดชนิดโปรเจสตินเดี่ยว จะช่วยระงับการมีประจำเดือนรวมทั้งหยุดการเจริญของเยื่อบุโพรงมดลูกโดยจะช่วยบรรเทาอาการและอาการแสดงของเยื่อบุโพรงมดลูกซึ่งอาจบรรเทาอาการและอาการแสดงของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ได้
  • การใช้ยายับยั้งกลุ่มอะโรมาเตส (Aromatase inhibitors): ยากลุ่มที่ยับยั้งการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนเพศชายที่ต่อมหมวกไตมาเป็นเอสโตรเจน) ยากลุ่มนี้นำไปใช้ในการลดฮอร์โมนเอสโตรเจน คุณอาจได้รับคำแนะนำให้รับประทานยายับยั้งกลุ่มอะโรมาเตสควบคู่ไปกับยาคุมกำเนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดียว บางกรณีอาจรับคำแนะนำให้ใช้ยายับยั้งกลุ่มอะโรมาเตสควบคู่ไปกับฮอร์โมนคุมกับเนิดในการรักษาเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
  • การผ่าตัดแบบอนุรักษ์นิยม: การนำเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ออกขณะที่ยังคงมดลูกและรังไข่ไว้เป็นวิธีการผ่าตัดแบบอนุรักษนิยม หากคุณต้องการตั้งครรภ์ขณะมีโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่แล้วนั้นคุณอาจได้รับคำแนะนำให้เลือกการผ่าตัดแบบอนุรักษนิยม และการผ่าตัดนี้มีโอกาสสำเร็จสูง การผ่าตัดอาจยังประโยชน์ต่อผู้ป่วยที่มีอาการปวดจากเยื่อบุโพรงมดลูก แต่เมื่อรับการผ่าตัดอาจกลับมาเป็นโรคและมีอาการปวดได้อีก ในกรณีส่วนใหญ่การผ่าตัดแบบอนุรักษนิยมด้วยการส่องกล้องมักเป็นที่นิยมกว่ากระบวนการผ่าตัดเปิดหน้าท้องแบบดั้งเดิม
  • การรักษาภาวะการมีบุตรยาก: เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ส่งผลให้มีบุตรยาก ภาวะนี้แพทย์อาจแนะนำให้คุณรับการรักษาภาวะมีบุตรยากโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ การรักษาประกอบไปด้วยการกระตุ้นไข่จนถึงการผลิตไข่ให้มากขึ้นและการทำเด็กหลอดแก้ว
  • การผ่าตัดมดลูกพร้อมนำรังไข่ออก: ภาวะหมดประจำเดือนเกิดขึ้นได้เช่นกันเมื่อนำรังไข่ออกมา อาการปวดจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่อาจบรรเทาลงเมื่อผลิตฮอร์โมนไม่ได้  ภาวะหมดประจำเดือนตั้งแต่อายุยังไม่มากนั้นไม่ยังผลดีต่อสุขภาพเพราะคุณจะมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและปัญหาหลอดเลือด สภาพการเผาผลาญบางอย่างและการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรเกี่ยวเนื่องกับการหมดประจำเดือนเร็วกว่าวัย บางครั้งแพทย์ของคุณอาจเลือกใช้การผ่าตัดมดลูกพร้อมนำรังไข่ออกโดยตัดมดลูกเพื่อรักษาอาการและอาการแสดงที่เกี่ยวข้องกับโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการมีบุตรแพทย์อาจแนะนำให้รับการผ่าตัดข้างต้นเพื่อรักษาอาการประจำเดือนมามากรวมทั้งอาการปวดประจำเดือนจากมดลูกบีบรัดตัว

การเตรียมตัวสำหรับนัดพบแพทย์

ก่อนพบแพทย์แนะนำให้จดรายการอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น ยาที่ใช้สมุนไพร หรือวิตามินเสริมที่รับประทาน ให้นำสมุดบันทึกและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับการจดข้อมูลสำคัญขณะพบแพทย์ รวมทั้งให้จดรายการคำถาม(หากมี)

สิ่งที่อาจเกิดขณะผู้ป่วยพบแพทย์

คุณอาจจะได้รับการซักประวัติหลายคำถาม เช่น คุณมีอาการดังกล่าวบ่อยเพียงใด คุณมีอาการนานเท่าใด หรือมีอะไรบ้างที่ทำให้มีอาการมากขึ้น

ประวัติเจ้าของบทความ

มาเรียม เล็กหีม สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี 1) บริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาการบริหารทรัพยากรบุคคลและองค์การ
คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 2) บัญชีบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ประวัติการทำงาน เคยรับราชการตำแหน่งนักทรัพยากรบุคคลปฏิบัติการ หน่วยงานภาครัฐ สังกัดกรุงเทพมหานคร

ประวัติฝึกอบรมด้านการแปล 1) การแปลเอกสารภาษาอังกฤษเป็นไทย Continuing Education Program สถาบันภาษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 2) อบรมการแปลของชมรมนักแปลและล่ามอาชีพ (Professional Translators and Interpreters Society) หลักสูตรการแปลเอกสารภาษาอังกฤษเป็นไทย รุ่นที่ 1 : (Intermediate Level - คู่ภาษาอังกฤษ - ไทย)

14/06/2021
บทความที่เกี่ยวข้อง
CHECKSUKKAPHAP.COM
เลขที่ 598 ชั้น 6 ถนนเพลินจิต ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
095-515-9229
ข้อกำหนดและเงื่อนไข ความเป็นส่วนตัว