สรรพคุณของช็อคโกแลต:

ช็อคโกแลตมาจากเมล็ดโกโก้

ช็อคโกแลตใช้รักษาอาการทางการแพทย์ดังนี้:

• โรคความดันโลหิตสูง
• โรคตับแข็ง (โรคตับเรื้อรัง)
• คอเลสเตอรอลสูง
• น้ำตาลในเลือดสูง
• โรคหัวใจ
• โรคเบาหวาน
• โรคผิวหนัง
• อาการท้องผูก
• อาการอ่อนเพลียเรื้อรัง

ช็อคโกแลตยังเป็นตัวช่วยในเรื่องการตั้งครรภ์

กลไกการออกฤทธิ์:

ยังไม่มีงานวิจัยเกี่ยวกับกลไกการออกฤทธิ์ของช็อคโกแลต ควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

ข้อควรระวังและคำเตือน:

สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้ช็อคโกแลต:

ปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในกรณีที่:

• ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในขณะให้นมบุตรนั้น ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
• กำลังใช้ยาอื่น ๆ รวมถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์
• มีอาการแพ้สารในช็อคโกแลต ยาอื่น ๆ หรืออาหารเสริมอื่น ๆ
• มีโรคอื่น ๆ มีความผิดปกติหรือพยาธิสภาพอื่น ๆ
• มีอาการแพ้อื่น ๆ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูดหรือเนื้อสัตว์ต่าง ๆ

ข้อกำหนดสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากช็อคโกแลต นั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อกำหนดยาอื่น ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย การใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต้องมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

ช็อคโกแลตปลอดภัยแค่ไหน:

การตั้งครรภ์และให้นมบุตร:

ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้ช็อคโกแลตระหว่างการตั้งครรภ์และให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาเพื่อประเมินประโยชน์และความเสี่ยงก่อนที่จะใช้ยาชนิดนี้เสมอ

การผ่าตัด:

หยุดใช้ ช็อคโกแลตอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนทำการผ่าตัด

ผลข้างเคียง:

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ช็อคโกแลตมีอะไรบ้าง

ช็อคโกแลตอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงเช่น:

• ปวดหัว ไมเกรน ระคายเคือง หงุดหงิด วิตกกังวลและเวียนศีรษะ
• สิว อาการแพ้ตามผิวหนัง
• ความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร
• กระดูกผุ โรคฟันผุ ผื่นแดง
• เพิ่มระดับคอเลสเตอรอล
• เพิ่มความรุนแรงของอินซูลินและเพิ่มระดับอินซูลิน
• จังหวะการเต้าของหัวใจไม่สม่ำเสมอ เพิ่มระดับออกซาเลตในปัสสาวะ
• ความหงุดหงิด กระวนกระวายใจ ไตเสียหายและไม่ทำงาน
• อาการปวดท้ายทอย หงุดหงิด ไข้จับสั่น อาการนอนไม่หลับ
• บวมใต้ผิวหนัง

ใช่ว่าทุกคนที่จะได้รับผลข้างเคียงเหล่านี้ อาจจะมีผลข้างเคียงบางอย่างที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น

ถ้าหากมีความกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้

 ปฏิกิริยาระหว่างยา:

ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเมื่อใช้ยาอื่นร่วมกับช็อคโกแลตมีอะไรบ้าง

ช็อคโกแลตอาจมีผลกับยาที่ใช้อยู่หรือพยาธิสภาพอื่นๆ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้งาน

ผลิตภัณฑ์ที่อาจจะมีปฏิกิริยากับช็อคโกแลต ได้แก่:

• แอสไพริน สารกันเลือดเป็นลิ่ม (Blood Thinners) เช่น วาร์ฟาริน (Warfarin) หรือคูมาดิน (Coumadin) หรือเฮพาริน (Heparin) ยาระลายลิ่มเลือด เช่น โคลพิโดเกรล (Clopidogrel) หรือเพลวิกซ์ (Plavix) และยาต้านการอักเสบ เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือมอทรินและแอดวิล (Motrin, Advil) หรือนาพร็อกซิน (Naproxen) หรือนาโพรซินและอะเลเว (Naprosyn, Aleve)
• ผงถ่าน ยาสำหรับป้องกันประดูกพรุน ยาสำหรับฟัน ยาที่มีผลต่อการขยายตัวของเส้นเลือด
• ยาที่มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ยาที่มีผลต่อหัวใจ(รวมถึงจังหวะการเต้นของหัวใจ) ยาที่มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ยาที่มีผลต่อระบบประสาท ยาที่มีผลต่อกระเพาะอาหารและลำไส้ ที่มีผลกับการทำลายตับ แองจิโอเทนซิน-คอนเวอร์ติง เอนไซม์ (ACE) ยาคลายกังวลยาต้านมะเร็ง แอสไพริน
• ยารักษาโรคซึมเศร้า (SSRIS) ยารักษาการอักเสบ เกลือที่มีแคลเซียม แคนนาบินอยด์ (Cannabinoids) (ปัจจุบันมีอยู่ในกัญชา) ยาลดระดับคลอเรสเตอรอล ยาช่วยเรื่องการเจริญพันธุ์ กรมแกมมา-อะมิโนบูไทริก (GABA) เกลือผสมธาตุเหล็ก ยาบรรเทาปวด ซัลบูทาโมล (Salbutamol) และครีมกันแดด

ขนาดยา:

ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์โดยตรง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้ช็อคโกแลต

ปริมาณปกติของการใช้ช็อคโกแลตอยู่ที่เท่าไหร่:

ผู้ใหญ่:

สำหรับช่วยในเรื่องการตั้งครรภ์: รับประทานช็อคโกแลตทุกวันวันล่ะ 30กรัม  โดยเริ่มรับประทานที่อายุครรภ์ 13 สัปดาห์จนคลอด

สำหรับช่วยในเรื่องคลายความกังวล: รับประทานช็อคโกแลตทุกวันวันล่ะ 2 ครั้ง ครั้งล่ะ 20-25กรัม  เป็นเวลา10 วัน ถึง 2 สัปดาห์

สำหรับช่วยในเรื่องโรคหัวใจ: รับประทานช็อคโกแลต 13.5-80 กรัม  วันล่ะ1-3 เวลา ภายในสองวันและมากกว่า 26 สัปดาห์ 

สำหรับช่วยเรื่องอาการเหนื่อยล้าแบบเรื้อรัง: รับประทาน ช็อคโกแลตบาร์ 15 กรัม   รับประทานสามเวลาติดต่อกัน 8 สัปดาห์

สำหรับช่วยเรื่องโรคตับแข็ง: อาหารเรียกน้ำย่อยปริมาณ200 มิลิกรัมของ 0.55 กรัมของ ดาร์คช็อคโกแลตหนึ่งกิโลกรัม  เป็นปริมาณที่รับประทานในแต่ล่ะครั้ง

สำหรับช่วยเรื่องโรคเบาหวาน: ใช้ ช็อคโกแลต 15กรัม 3  เวลาต่อวันเป็นเวลา 8 สัปดาห์

สำหรับช่วยในเรื่องน้ำตาลในเลือดสูง: รับประทานช็อคโกแลต มากว่า 100 กรัม  1-2   ครั้งต่อวันเป็นเวลา 5   ถึง 18 สัปดาห์เป็นช็อคโกแลตบาร์ หรือเครื่องดื่มผสมโกโก้

สำหรับช่วยในเรื่องคอเลสเตอรอลสูง: ใช้ ช็อคโกแลต 13-10กรัม 1-2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ถึง 26 สัปดาห์

สำหรับช่วยในเรื่องความดันโลหิตสูง: ใช้ ช็อคโกแลต 6-100กรัม1-2 ครั้งต่อวันภายใน 7 วัน มากกว่า 26 สัปดาห์

ปริมาณการใช้อาหารเสริมประเภทสมุนไพรชนิดนี้อาจแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย ปริมาณยาที่ใช้ขึ้นอยู่กับช่วงอายุ สุขภาพ และพยาธิสภาพอื่น ๆ  การใช้ช็อคโกแลตอาจไม่ปลอดภัยเสมอไป โปรดปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ผู้ทำการรักษาเพื่อทราบปริมาณที่เหมาะสม

ช็อคโกแลตมีจำหน่ายในรูปแบบใดบ้าง:

สมุนไพรชนิดนี้อาจมีจำหน่ายในรูปแบบต่อไปนี้:

• ช็อคโกแลตบาร์
• เครื่องดื่มผสมโก้โก้ เช่น โกโก้เวีย (CocoaVia)
• ดาร์คช็อคโกแลต
• ผงโกโก้