
อะดีโนซีน (Adenosine) คืออะไรและใช้ทำอะไร
อะดีโนซีน คือ สารเคมีที่อยู่ในเซลล์ของมนุษย์ทุกเซลล์ ผสานเข้ากับฟอสเฟตอย่างฉับพลันเพื่อสร้างสารประกอบเคมีรวมถึง อะดีโนซีนโมโนฟอสเฟต (เอเอ็มพี) และอะดีโนซีนไตรฟอสเฟต (เอทีพี) อะดีโนซีนมาใช้เป็นยา
เอเอ็มพีเป็นยารับประทานที่ใช้รักษาโรคงูสวัดและโรคพอร์ไฟเรีย (Porphyria) ส่วนเอทีพีใช้วางใต้ลิ้นเพื่อเพิ่มพละกำลัง และยังนำมาใช้ฉีดเข้าหลอดเลือดดำเพื่อรักษาไตวายเฉียบพลัน ภาวะอวัยวะล้มเหลวหลายระบบ ความดันหลอดเลือดปอดสูง โรคซิสติก ไฟโบรซิส (Cystic Fibrosis) โรคมะเร็งปอด น้ำหนักลดเนื่องจากโรคมะเร็งและควบคุมระดับความดันโลหิตในช่วงที่ให้ยาสลบและผ่าตัด นอกจากนี้ ยังนำมาใช้ตรวจสมรรถภาพหัวใจอีกด้วย
บุคลากรทางการแพทย์ฉีดอะดีโนซีนเข้าหลอดเลือดดำเพื่อรักษาอาการเจ็บจากแผลผ่าตัดและอาการปวดเส้นประสาท ความดันหลอดเลือดปอดสูงและภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดต่างๆ อีกทั้งยังใช้ฉีดเพื่อคุมระดับความดันโลหิตในช่วงที่ให้ยาสลบ ผ่าตัดและการตรวจหัวใจที่เรียกว่าการตรวจสมรรถภาพหัวใจ
อะดีโนซีนจะถูกฉีดเข้าบริเวณไขสันหลังเพื่อรักษาอาการปวดเส้นประสาท
อะดีโนซีน ฟอสเฟตถูกฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อ (การฉีดเข้ากล้ามเนื้อ) เพื่อรักษาเส้นเลือดขอด การอักเสบของถุงน้ำลดการเสียดสี เส้นเอ็นบวมและบาดเจ็บ (โรคเอ็นอักเสบ) อาการคัน โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (เอ็มเอส) โรคเส้นประสาท โรคงูสวัด โรคเริม โรคเริมที่อวัยวะเพศและการไหลเวียนเลือดไม่ดี
การออกฤทธิ์
เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับการออกฤทธิ์ของอะดีโนซีนมากพอ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาแพทย์ อย่างไรก็ตาม อะดีโนซีนสามารถป้องกันระบบไหลเวียนเลือดหัวใจผิดปกติซึ่งก่อให้เกิดโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ อะดีโนซีนไตรฟอสเฟต (เอทีพี) อาจช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงเมตาโบลิซึ่มของพลังงานที่ทำให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะลุกลามน้ำหนักลด
ข้อควรระวังและคำเตือน
สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้อะดีโนซีน
- ควรปรึกษาหรือพบกับแพทย์ เภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพร ถ้าอยู่ในอาการหรือลักษณะดังต่อไปนี้:
- ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจาก ในระหว่างการมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
- อยู่ระหว่างรับประทานยาชนิดอื่น รวมไปถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา
- แพ้อะดีโนซีนในทุกรูปแบบ ยาหรือสมุนไพรชนิดอื่น ๆ
- มีอาการเจ็บป่วย ความผิดปกติ หรือพยาธิสภาพอื่น ๆ
- หากเคยมีประวัติการแพ้ต่างๆ แพ้อาหาร แพ้สีผสมอาหาร แพ้สารกันบูด หรือแพ้เนื้อสัตว์
ข้อบังคับสำหรับอาหารเสริมชนิดนี้มีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับของการใช้ยา จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องศึกษาให้มากเพื่อความปลอดภัยในการใช้ คุณประโยชน์ของการใช้อะดีโนซีนต้องมีค่าน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยงก่อนการใช้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์
อะดีโนซีนปลอดภัยแค่ไหน
อะดีโนซีนปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่เมื่อมีบุคลากรทางการแพทย์เป็นผู้ฉีดยาให้
ข้อควรระวังและคำเตือนในกรณีพิเศษ
การตั้งครรภ์และการให้นมบุตร: ข้อมูลที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้อะดีโนซีนขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรยังมีไม่เพียงพอ โปรดระวังและหลีกเลี่ยงการใช้
โรคเกาต์: เอทีพีเพิ่มระดับของกรดยูริกในกระแสเลือดกับปัสสาวะและอาจไปกระตุ้นให้เกิดโรคเกาต์ตามมา โรคเกาต์ทำให้ข้อต่อแดง ร้อน อ่อนแรงและบวมได้ ข้อต่อที่เกิดอาการมากที่สุดคือที่ฐานของนิ้วหัวแม่เท้า
โรคหัวใจ: เอทีพีอาจเป็นสาเหตุของการไหลเวียนเลือดหัวใจที่ลดลงและอาการเจ็บหน้าอก อาจทำให้อาการของผู้ป่วยโรคหัวใจแย่ลง อาทิเช่น เจ็บหน้าอกและหัวใจวาย
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงที่อาจได้รับจากการใช้อะดีโนซีน
อะดีโนซีนอาจก่อให้เกิดปัญหาการหายใจและเจ็บหน้าอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อให้ยาในปริมาณสูง นอกจากนี้ยังอาจเกิดอาการ ปวดศีรษะ ใจเต้นเร็ว ระดับความดันโลหิตต่ำ คลื่นไส้ เหงื่อออก หน้าแดง เวียนหัว ปัญหาการนอนหลับ ไอและวิตกกังวล
ผลข้างเคียงเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน อาจมีผลข้างเคียงอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึงอีก หากท่านกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษาแพทย์
ปฏิกิริยาระหว่างยา
จะเกิดปฏิกิริยาอะไรเมื่อใช้อะดีโนซีนกับสารอื่น ๆ
อะดีโนซีนอาจมีปฏิกิริยากับการรักษาปัจจุบันหรือพยาธิสภาพที่มี ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้
ผลิตภัณฑ์ที่อาจเกิดปฏิกิริยากับอะดีโนซีนรวมถึง:
- ไดไพริดาโมล (Dipyridamole)
ร่างกายจะหยุดการทำงานของอะดีโนซีนเพื่อกำจัดมัน ไดไพริดาโมล (เพอร์แซนทิน) อาจลดประสิทธิภาพของอะดีโนซีน การลดประสิทธิภาพของอะดีโนซีนอาจก่อให้เกิดปัญหาหัวใจ อย่ารับประทานอะดีโนซีนหากทานไดโพริดาโมล (เพอร์แซนทิน)
- คาร์บามาเซพีน (Carbamazepine)
อะดีโนซีนอาจลดอัตราการเต้นของหัวใจ การรับประทานคาร์บาเซพีน (เทเกรทอล) พร้อมกับอะดีโนซีนอาจทำให้ใจเต้นช้ามากเกินไป อย่ารับประทานอะดีโนซีนหากทานคาร์บาเซพีน (เทเกรทอล)
โรคเกาต์เกิดจากการเพิ่มขึ้นของผลึกกรดยูริกในข้อต่อ อะดีโนซีนอาจทำให้กรดยูริกในร่างกายมีปริมาณสูงขึ้นและอาจลดประสิทธิภาพของยารักษาโรคเกาต์ ยารักษาโรคเกาต์รวมถึง อัลโลพูรินอล (ไซโลพริม) โคลชิซิน โพรเบเนซิด (เบเนมิด) และอื่นๆ อีกมากมาย
เมทิลแซนทีนส์อาจไปขัดขวางประสิทธิภาพของอะดีโนซีน แพทย์มักใช้อะดีโนซีนในการทดสอบหัวใจ การทดสอบนี้เรียกว่าการตรวจสมรรถภาพหัวใจ หยุดดื่มชาดำหรือเครื่องดื่มคาเฟอีนอื่นๆ ที่มีส่วนผสมของผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการตรวจสมรรถภาพหัวใจ เมทิลแซนทีนส์รวมถึงอะมิโนฟิลลีน คาเฟอีนและทีโอฟิลลีน
ขนาดยา
ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำจากแพทย์โดยตรง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้ยาเสมอ
ขนาดปกติของการใช้อะดีโนซีนอยู่ที่เท่าไร:
ยาดังต่อไปนี้ได้รับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์แล้ว:
การฉีดเข้าเส้นเลือดดำ:
บุคลากรทางการแพทย์จะฉีดอะดีโนซีนเมื่อเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดต่างๆ และน้ำหนักลดในผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะลุกลาม
การฉีดเข้ากล้ามเนื้อ:
บุคลากรทางการแพทย์จะฉีดอะดีโนซีนเข้ากล้ามเนื้อเพื่อรักษาบาดแผลในขาเนื่องจากการไหลเวียนเลือดไม่ดี
ปริมาณการใช้อะดีโนซีนอาจแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย ซึ่งปริมาณยาที่ใช้จะขึ้นอยู่กับช่วงอายุ สุขภาพ และพยาธิสภาพอื่น ๆ อาหารเสริมนี้อาจไม่ปลอดภัยเสมอไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับปริมาณยาที่เหมาะสม
อะดีโนซีนมีจำหน่ายในรูปแบบใด:
อะดีโนซีนอาจมีจำหน่ายอยู่ในรูปแบบต่อไปนี้:
- แคปซูลอะดีโนซีนโมโนฟอสเฟตขนาดหลายมิลลิกรัม
- การฉีดยาอะดีโนซีนโมโนฟอสเฟต
- สเปรย์อะดีโนซีนโมโนฟอสเฟต
WebMD. (2020). Adenosine. Accessed August 21, 2017
Drugs. (2020). Adenosine. Accessed August 21, 2017
WikiPedia. (2020). Adenosine. Accessed August 14, 2020.