การใช้
กลูตาไธโอนใช้ทำอะไร
กลูตาไธโอนเป็นสารที่สามารถผลิตขึ้นได้ด้วยตับ และสามารถพบได้ในผลไม้ ผักและเนื้อสัตว์
คนส่วนใหญ่รับประทานกลูตาไธโอนเพื่อ:
- รักษาอาการต้อกระจกและต้อหิน
- ป้องกันริ้วรอย
- รักษาและป้องกันโรคพิษสุราเรื้อรัง โรคหืด โรคมะเร็ง โรคหัวใจ (โรคหลอดเลือดแดงแข็งและคอเลสเตอรอลสูง) โรคตับอักเสบ โรคที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันของตนเองลดลง (เอดส์หรืออาการล้าเรื้อรัง) ความจำเสื่อม (อัลไซเมอร์ โรคข้อกระดูกอักเสบ โรคพาร์คินสัน)
- รักษาระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและต่อสู้กับสารโลหะและพิษจากยา
- รักษาอาการจากโรคปอด เช่น ภาวะการอักเสบของเนื้อปอด รคเรื้อรังที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมทำให้เกิดการสร้างเสมหะข้นในปอด และโรคปอดอื่นๆ ในผู้ที่มีเชื้อเอชไอวี
บุคลากรทางการแพทย์ใช้ยากลูตาไธโอน สำหรับอาการ:
- ป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเป็นพิษจากการรักษาโรคมะเร็ง (การรักษาด้วยเคมีบำบัด)
- รักษาภาวะการมีบุตรยากของเพศชาย
บุคลากรทางการแพทย์ให้ยากลูตาไธโอนทางหลอดเลือดดำ สำหรับอาการ:
- ป้องกันอาการไตวายเรื้อรังสำหรับผู้ที่ผ่านการฟอกไต
- ป้องกันปัญหาเกี่ยวกับโรคไตหลังจากการผ่าตัดบายพาสหัวใจ
- รักษาโรคพาร์คินสัน
- ฟื้นฟูการไหลเวียนของเลือดและป้องกันเลือดแข็งตัวง่ายในผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือด
- รักษาอาการโรคเบาหวาน
- ป้องกันพิษจากการทำเคมีบำบัด
การออกฤทธิ์
เนื่องจากยังมีการศึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนี้ไม่มากพอ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์ อย่างไรก็ดี อย่างที่ทราบโดยทั่วไปว่า กลูตาไธโอน มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย เช่น ฟื้นฟูและเสริมสร้างสารเคมีและโปรตีนต่างๆ ที่ร่างกายต้องการสำหรับระบบภูมิคุ้มกัน
ข้อควรระวังและคำเตือนการใช้ยาโดยเฉพาะ
สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้กลูตาไธโอน
ควรปรึกษาหรือพบกับแพทย์หรือเภสัชกร ถ้าอยู่ในอาการหรือลักษณะดังต่อไปนี้:
- หญิงมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในระหว่างการมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรจึงควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
- อยู่ในระหว่างรับประทานยาชนิดอื่น รวมไปถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา
- หากเคยมีประวัติแพ้ยาชนิดใดชนิดหนึ่งของกลูตาไธโอนหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ
- หากมีอาการเจ็บป่วย ความผิดปกติ หรือสภาพทางการแพทย์อื่นๆ
- หากเคยมีประวัติการแพ้ต่างๆ แพ้อาหาร แพ้สีผสมอาหาร แพ้สารกันบูด หรือแพ้เนื้อสัตว์
ข้อบังคับสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่ายาชนิดอื่นๆ จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องศึกษาให้มากเพื่อความปลอดภัยในการใช้ ทั้งนี้ ก่อนใช้ คุณประโยชน์ของการรับประทานอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนี้ต้องมีค่าน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยงหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาแพทย์
กลูตาไธโอนปลอดภัยหรือไม่
กลูตาไธโอนปลอดภัยสำหรับการรับประทาน การดมยา และการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อหรือหลอดเลือดดำ ในผู้ใหญ่
ข้อควรระวังและคำเตือนการใช้โดยเฉพาะ
หญิงมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร:
เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลทางด้านความปลอดภัยในการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดนี้ในระหว่างมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร กรุณาปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินถึงประโยชน์และความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ก่อนใช้ยาชนิดนี้
โรคหืด: หลีกเลี่ยงการใช้ยากลูตาไธโอนด้วยวิธีการดมยา เพราะอาจทำให้เพิ่มความเสี่ยงในของโรคหืด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้กลูตาไธโอน
เนื่องจากยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับผลข้างเคียงของกลูตาไธโอน หากมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียงของยา ควรปรึกษาแพทย์
ปฏิกิริยาต่อยา
ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเมื่อใช้ยาอื่นร่วมกับกลูตาไธโอน
กลูตาไธโอนอาจมีปฏิกิริยากับยาที่ใช้ร่วมอยู่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา
ขนาดยา
ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำจากแพทย์โดยตรง ควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ก่อนใช้ยาเสมอ
ขนาดปกติของการใช้กลูตาไธโอนอยู่ที่เท่าไร
ปริมาณยาต่อไปนี้คือรายงานทางวิทยาศาสตร์:
การฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดำ:
บุคลากรทางการแพทย์ฉีดกลูตาไธโอนเข้าทางหลอดเลือดดำในผู้ที่เป็นโรคมะเร็ง (รักษาด้วยเคมีบำบัด) เพื่อป้องกันพิษจากการทำเคมีบำบัด
ปริมาณการใช้กลูตามีนอาจแตกต่างกันไปในแต่ละผู้ป่วย ซึ่งปริมาณยาที่ใช้จะขึ้นอยู่กับช่วงอายุ สุขภาพ และปัจจัยอื่นๆ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอาจไม่ปลอดภัยเสมอไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อปริมาณยาที่เหมาะสมสำหรับการรับประทาน
กลูตาไธโอนมีจำหน่ายในรูปแบบใดบ้าง
กลูต้าไธโอนอาจมีจำหน่ายในรูปแบบต่อไปนี้:
- แคปซูลกลูตาไธโอน
- ไลโปโซมกลูตาไธโอน
- กลูตาไธโอนชนิดผง
Glutathione http://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-717-glutathione.aspx?activeingredientid=717 Accessed July 17, 2017
Glutathione https://examine.com/supplements/glutathione/ Accessed July 17, 2017