เช็คสุขภาพ : ที่นี่ ... มีคำตอบให้ทุกคำถามเกี่ยวกับสุขภาพของท่าน
หน้าแรก / บทความ / ไอกรนระบาดในเด็ก! แพทย์เตือน ส่วนใหญ่ติดจากคนในครอบครัว
โดย : วณิชชา สุมานัส
ทบทวนบทความโดย : ทีมแพทย์จากเช็คสุขภาพ
ไอกรนระบาดในเด็ก! แพทย์เตือน ส่วนใหญ่ติดจากคนในครอบครัว

29 เมษายน 2561, กรุงเทพ --- กรมควบคุมโรคพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพ เตือนช่วงนี้พบเด็กป่วยโรคไอกรนต่อเนื่อง จากข้อมูลการสอบสวนโรค พบว่าเด็กที่ป่วยด้วยโรคไอกรนส่วนใหญ่ติดเชื้อจากสมาชิกในครอบครัวที่ไม่แสดงอาการป่วย แนะผู้ปกครองพาเด็กไปรับวัคซีนให้ครบตามกำหนด

จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคไอกรนในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-26 เม.ย. 2561 มีรายงานโรคไอกรน 19 เหตุการณ์ พบผู้ป่วย 27 ราย เสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุน้อยกว่า 1 ปี (ร้อยละ 59.26) รองลงมาคือกลุ่มอายุ 1-3 เดือน (ร้อยละ 40.74)

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2556-2560) มีรายงานผู้ป่วย 16-77 ราย เสียชีวิตปีละ 0-3 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2558 และสูงกว่าค่ามัธยฐาน 5 ปีย้อนหลังโดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงาน 4 เหตุการณ์ จากจังหวัดสงขลา ภูเก็ต นครพนม และนครศรีธรรมราช

การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์ คาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีแนวโน้มพบผู้ป่วยโรคไอกรนเพิ่มสูงขึ้น

จากข้อมูลการสอบสวนโรค พบว่าเด็กที่ป่วยด้วยโรคไอกรนส่วนใหญ่ติดเชื้อจากสมาชิกในครอบครัวที่ไม่แสดงอาการป่วย ดังนั้นผู้ที่มีอาการไอ จาก ไม่ควรคลุกคลีกับเด็กแรกเกิด หรือไม่ควรพาเด็กเล็กไปในสถานที่ชุมนุมชนหรือแออัด และหากพบเด็กแรกเกิดมีอาการไอแห้งเป็นชุดๆ ไอมาก หายใจไม่ทัน ให้รีบพาไปพบแพทย์ทันที

สำหรับโรคไอกรน เป็นโรคติดต่อที่มักพบในเด็กแรกเกิด ติดต่อโดยการหายใจเอาเชื้อจากการไอ จาม ของบุคคลที่มีเชื้อโรคในร่างกายทั้งที่มีอาการป่วยหรือไม่แสดงอาการ โรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการรับวัคซีน ดังนั้น พ่อแม่ ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานของท่านไปฉีดวัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ตามช่วงเวลาที่กำหนด (2 เดือน, 4 เดือน, 6 เดือน, 1 ปีครึ่ง และ 4 ปี) สำหรับหญิงตั้งครรภ์สามารถปรึกษากับแพทย์เกี่ยวกับการเสริมภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันโรคได้เช่นกัน

กรมควบคุมโรค ขอแนะนำวิธีการป้องกันและควบคุมโรค ดังนี้ หากมีผู้ป่วยไอกรน ควรแยกผู้ป่วยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อแก่ผู้อื่น โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ยังได้รับวัคซีนไม่ครบ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อผ่านน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย ในผู้สัมผัสโรคควรสังเกตว่ามีอาการไอหรือไม่ ติดตามอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ส่วนเด็กที่สัมผัสโรคใกล้ชิด ควรไปรับคำปรึกษาจากแพทย์ แม้จะได้รับวัคซีนป้องกันครบแล้วก็ตาม

หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

29/04/2018
บทความที่เกี่ยวข้อง

การใช้ยาคุมฉุกเฉินเป็นเรื่องที่ถูกถามบ่อยจากบรรดาวัยรุ่น หลายคนเลือกใช้ยาคุมฉุกเฉินเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ เพราะคิดว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด หากคุณพี่ของน้องอดไม่ไหวแล้ว ยาคุมฉุกเฉินมีฮอร์โมนเหมือนยาคุมทั่วไป เพียงแต่จะมีขนาดฮอร์โมนที่สูงกว่า ยาคุมกำเนิดสามารถป้องกันสเปิร์มไม่ให้เข้าไปปฏิสนธิกับไข่ หรือทำให้ไข่ออกจากรังไข่ได้ช้าลง ทำให้เยื่อบุมดลูกเปลี่ยนแปลงจนไม่เหมาะกับการฝังตัวของไข่ที่ผสมแล้ว



กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารควบคุมน้ำหนักและบำรุงที่จำหน่ายในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 3 และที่ 4 พบมีการปนปลอมยาลดน้ำหนัก ยารักษาโรคซึมเศร้า ยาระบาย และยาไวอากร้า ซึ่งผู้บริโภคอาจได้รับอันตราย ถึงแก่ชีวิตจากยาที่มีการปนปลอมค่อนข้างสูง



งานวิจัยวงการแพทย์ระดับโลก อลกอฮอล์คร่าชีวิต ชี้ชัดดื่มเบียร์-เหล้า–ไวน์ มหันตภัยโรคร้ายหัวใจพ่วงหลอดเลือด ซดเบียร์มากกว่า 10 กระป๋องต่อสัปดาห์เสี่ยงตาย


CHECKSUKKAPHAP.COM
เลขที่ 598 ชั้น 6 ถนนเพลินจิต ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
095-515-9229
ข้อกำหนดและเงื่อนไข ความเป็นส่วนตัว