เช็คสุขภาพ : ที่นี่ ... มีคำตอบให้ทุกคำถามเกี่ยวกับสุขภาพของท่าน
หน้าแรก / บทความ / พบสารต้องห้ามในอาหารเสริมวางขายเกลื่อน 8 เว็บอี-คอมเมิร์ซชื่อดัง
โดย : เอกพล สุวรรณหงษ์
ทบทวนบทความโดย : ทีมแพทย์จากเช็คสุขภาพ
พบสารต้องห้ามในอาหารเสริมวางขายเกลื่อน 8 เว็บอี-คอมเมิร์ซชื่อดัง

15 มิถุนายน 2561, กรุงเทพ --- สำนักงานมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) จัดแถลงข่าว “ผลทดสอบสาร ไซบูทรามีน และ ฟลูออกซิทีน ในอาหารเสริมลดน้ำหนัก ที่สั่งซื้อออนไลน์” โดยมีตัวอย่างสินค้าเสริมอาหารที่บรรยายสรรพคุณว่า สามารถใช้บริโภคเพื่อการลดน้ำหนัก ทั้งหมดกว่า 16 ตัวอย่างสินค้า โดยสินค้าเหล่านี้พบ วางขายบนเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซชื่อดังถึง 8 แห่ง ได้แก่ Lazada, 11 street, Shopee, Watsons, Konvy, We Mall, และ C Mart ในเดือนกุมพาพันธ์ที่ผ่านมา

ผลการทดสอบพบว่า อาหารเสริมลดน้ำหนักเหล่านี้ ตรวจพบสารไซบูทรามีนและฟูออกซิทีน ซึ่งเป็นยาอันตราย ห้ามใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จำนวนทั้งหมด 6 ตัวอย่าง AIKA, MINIMAL by FALONFON, S-Line, LYN, L-Fin by Luk-Sam-Rong และ Kalo ซึ่งจากการสำรวจล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2561 ยังมีอาการเสริมที่พบว่าใส่สารต้องห้ามจำหน่ายอยู่บนเว็บอี-คอมเมิร์ซชื่อดัง 4 แห่ง ได้แก่ Lazada, 11 street, Shopee และ C Mart

นางสาวสถาพร อารักษ์วทนะ นักวิชาการผลิตภัณฑ์สุขภาพ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ปัญหาการซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารออนไลน์ เกิดจากการใช้ข้อความโฆษณาเกินจริง ซึ่งผู้บริโภคไม่มีแหล่งตรวจสอบข้อความโฆษณาว่า คำโฆษณากล่าวอ้างบรรยายสรรพคุณนั้นๆ ได้รับอนุญาต หรือเกินจริงหรือไม่ ซึ่งเป็นการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบออนไลน์อีกด้วย รวมไปถึงค่านิยมของคนไทยในปัจจุบันที่ให้ความสำคัญในเรื่องผอม ขาว

ประกอบกับการโฆษณากระตุ้นให้อยากขาว สวย ผอม เหมือนเน็ตไอดอล หรือศิลปินดาราที่เป็นคนนำเสนอสินค้า สอดคล้องกับงานวิจัยเรื่อง 'การพัฒนารูปแบบการกำกับดูแลโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพเกินจริง : คลังข้อมูลผลิตภัณฑ์สุขภาพ' ในนามคณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน (คอบช.) พบว่า ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าออนไลน์เพราะเชื่อถือโฆษณาที่จูงใจและมีผู้แนะนำเป็นบุคคลมีชื่อเสียง คิดว่าน่าจะได้ผลเหมือนโฆษณา

ส่วนลำดับ 2 คือการเห็นเครื่องหมาย อย. นอกจากนี้ผู้ตอบแบบสอบถามยังต้องการให้มีแหล่งข้อมูลที่จะสามารถตรวจสอบโฆษณาได้ ดังนั้น อย.ควรเปิดให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงคลังข้อมูลผลิตภัณฑ์สุขภาพโดยเร็ว เพื่อลดปัญหาการถูกหลอกจากโฆษณา

นางสาวสถาพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังได้สำรวจข้อมูลล่าสุดวันที่ 10 มิถุนายน 2561 พบว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ตรวจพบสารประกอบอันตรายไซบูทรามีน และฟลูออกซิทีน ทั้ง 6 ผลิตภัณฑ์ ยังพบการขายในร้านค้าออนไลน์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยี่ห้อ ลีน (Lyn) ที่ทาง อย. ได้ประกาศว่าเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ และยกเลิกเลขทะเบียนผลิตภัณฑ์แล้ว อีกทั้งผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนี้ยังเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 4 ราย จึงขอเรียกร้องให้ทาง หน่วยงานกำกับดูแลหลัก (อย.) และหน่วยงานกำกับดูแลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง บังคับใช้กฎหมายโดยทันที

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะต้องบังคับใช้กฎหมายกับผู้ประกอบการออนไลน์ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ มาตรา 15 ที่ระบุว่า ผู้ให้บริการ หรือ ผู้ดูแลระบบ หรือแอดมินเพจ ที่เปิดให้มีการนำเข้าข้อมูล เมื่อพบเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย ถ้าได้รับการแจ้งเตือนแล้วลบออก ไม่ต้องรับโทษ แต่ถ้าไม่ยอมลบออก โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ผศ.ภญ.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการแผนงานพัฒนากลไกเฝ้าระวังระบบยา ศูนย์วิชาการเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย.) กล่าวว่า ไซบูทรามีนเป็นยาต้านอาการซึมเศร้า ซึ่งสามารถลดความอยากอาหารได้ โดยยาดังกล่าวได้ถูกถอนออกจากตลาดในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ยุโรป และอีกหลายประเทศ เนื่องจากอาจทำให้ผู้ใช้ยาเกิดอาการหัวใจเต้นเร็ว ความดันเลือดสูง เสี่ยงการที่ทำให้หัวใจขาดเลือดและการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง

ปัจจุบันในประเทศไทย ห้ามผู้รับอนุญาตนำเข้าหรือขายยาดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 มาตรา 72(5) ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนประชาชนที่ขายหรือนำเข้ายานี้ ถือว่าเป็นการขายหรือนำเข้ายาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 12 ต้องรับโทษตามมาตรา 101 คือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท

ผศ.ภญ.นิยดา กล่าวต่อว่า สำหรับฟลูออกซิทีนนั้น เป็นยาที่ใช้รักษาโรคซึมเศร้า โรคย้ำคิดย้ำทำ โรคหิวไม่หายแบบทานแล้วอาเจียน จัดเป็นยาแผนปัจจุบันประเภทยาอันตรายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งหากผลิตภัณฑ์ใดได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์อาหารในประเทศไทย แล้วตรวจพบไซบูทรามีนหรือฟลูออกซิทีนในส่วนผสม ถือว่าเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ ตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายอาหารปลอมถ้าหากมีฉลากเพื่อลวงให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งมีโทษจำคุกทั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000 – 100,000 บาท

นาวสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และบรรณาธิการบริหาร นิตยสารฉลาดซื้อ มีข้อเสนอ 3 ประการ ไปยังผู้ประกอบกิจการร้านค้าออนไลน์

1.ขอเรียกร้องให้ตลาดออนไลน์ทั้ง 4 แห่ง นำสินค้าออกจากตลาดออนไลน์โดยทันที

2.ให้ตลาดและร้านค้าออนไลน์ ต้องตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพก่อนจำหน่ายทุกรายการ ว่าผิดกฎหมายหรือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นบัญชีดำของ อย. หรือกรมวิทยาศาตร์การแพทย์หรือไม่ หรือเมื่อ อย. ประกาศรายชื่อผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมายต่อสาธารณะ ผู้ให้บริการจะต้องหาวิธีการระงับหรือนำข้อมูลผลิตภัณฑ์ฯ ออกจากระบบคอมพิวเตอร์โดยเร็วที่สุด เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคน้อยที่สุด

และ 3.บริษัทต้องรับคืนสินค้าที่ผิดกฎหมายทุกรายการที่ผู้บริโภคได้ซื้อไปแล้วก่อนหน้านี้ทั้งหมด ถ้าตลาดออนไลน์ไม่ปฏิบัติขอให้หน่วยงานกำกับดูแลบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยใช้บทลงโทษสูงสุด

นางสาวสารี กล่าวต่อว่า มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคขอเรียกร้องให้คณะกรรมการวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท เร่งออกกฎหมายยกระดับไซบูทรามีน ให้เป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 ตาม พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559 ซึ่งหากผลิต นำเข้าหรือส่งออกผลิตภัณฑ์ที่มีไซบูทรามีนเป็นส่วนผสมจะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 5 - 20 ปี และปรับตั้งแต่ 5 แสน - 2 ล้านบาท หากขายจะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 4 - 20 ปี และปรับตั้งแต่ 4 แสน - 2 ล้านบาท รวมถึงการครอบครองผลิตภัณฑ์ดังกล่าวก็ถือว่าเป็นการกระทำผิดด้วย

ที่มา: มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

15/06/2018
บทความที่เกี่ยวข้อง

กรมควบคุมโรค-สปสช. รณรงค์ให้คนไทย 7 กลุ่มเสี่ยง เข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี 3.5 ล้านโด๊สช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้น



คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติเตรียมจัดทำฐานข้อมูลพระสงฆ์ 40,000 รูป ภายในปี 2561 โดยเร่งทำบัตรประจำตัวพระสงฆ์



ในเวทีประชุมวิชาการนานาชาติเพื่อล้างไตผ่านช่องท้องในผู้ป่วยไตวายเรื้องรัง (International Society of Peritoneal Dialysis – ISPD)


CHECKSUKKAPHAP.COM
เลขที่ 598 ชั้น 6 ถนนเพลินจิต ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
095-515-9229
ข้อกำหนดและเงื่อนไข ความเป็นส่วนตัว