สรรพคุณของน้ำมันตับปลา:
น้ำมันตับปลา ได้จากการรับประทานปลาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยทั่วไปใช้รักษาอาการต่อไปนี้:
- ไตรกลีเซอไรด์สูง
- โรคหัวใจ
- ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดหลังจากการผ่าตัดขยายเส้นเลือด
- การแท้งลูกในหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคที่เกิดจากความบกพร่องในระบบภูมิคุ้มกันทำอันตรายต่อตนเอง
- โรคสมาธิสั้นในเด็ก
- โรคไบโพล่าร์ หรือ โรคอารมณ์สองขั้ว
- น้ำหนักลดลงเนื่องจากเป็นโรคมะเร็ง
- การผ่าตัดหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ (บายพาสหัวใจ)
- ความดันโลหิตสูงเนื่องจากการรับประทานยาไซโคสปอริน (Cyclosporin)
- ความเสียหายต่อไตเนื่องจากการรับประทานยาไซโคสปอริน (Cyclosporin)
- ความผิดปกติของการประสานกล้ามเนื้อ (DCD)
- อาการปวดประจำเดือน
- การเคลื่อนไหวผิดปกติในเด็ก (ความผิดปกติของระบบประสาท)
- มะเร็งเยื่อบุมดลูก
- หัวใจล้มเหลว
- การปลูกถ่ายหัวใจ
- อาการคอเลสเตอรอลผิดปกติเนื่องจากการรักษาโรคเอชไอวี (HIV) / เอดส์ (AIDS)
- ความดันโลหิตสูง
- โรคไตอักเสบชนิดไอจีเอ
- โรคกระดูกพรุน
- โรคสะเก็ดเงิน
- โรคทางจิต
- คลอเลสเตอรอลผิดปกติหลังจากการปลูกถ่ายไต
- โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
- โรคหลอดเลือดสมอง
กลไกการออกฤทธิ์:
เนื่องจากยังมีการศึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนี้ไม่เพียงพอ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์ อย่างไรก็ดี ได้มีบางการศึกษาค้นพบว่า:
- ประโยชน์ของน้ำมันตับปลาประกอบไปด้วย กรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งร่างกายไม่สามารถสร้างโอเมก้า 3 และ 6 ได้เอง ส่วนใหญ่มักพบในอาหารทางตะวันตก
- กรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยฟื้นฟูอาการปวดและบวม ซึ่งมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคสะเก็ดเงินและอาการตาแห้ง อีกทั้งยังป้องกันไม่ให้เลือดแข็งตัวได้ง่ายและมีประโยชน์เพื่อช่วยรักษาอาการของโรคหัวใจได้บางชนิด
ข้อควรระวังและคำเตือน:
สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้น้ำมันตับปลา:
ปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในกรณีที่:
- หญิงมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในระหว่างการมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรจึงควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
- อยู่ในระหว่างรับประทานยาชนิดอื่น รวมไปถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา
- หากเคยมีประวัติแพ้ยาชนิดใดชนิดหนึ่งของ น้ำมันตับปลาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ
- หากมีอาการเจ็บป่วย ความผิดปกติ หรือสภาพทางการแพทย์อื่นๆ
- หากเคยมีประวัติการแพ้ต่างๆ แพ้อาหาร แพ้สีผสมอาหาร แพ้สารกันบูด หรือแพ้เนื้อสัตว์
ข้อกำหนดสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันตับปลานั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อกำหนดยาอื่น ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย การใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต้องมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
น้ำมันตับปลาปลอดภัยหรือไม่:
น้ำมันตับปลาปลอดภัยสำหรับทุกคนโดยการรับประทานในปริมาณน้อย ( 3 กรัมหรือน้อยกว่า ต่อวัน) แต่ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยสำหรับการรับประทานในปริมาณที่มากขึ้น น้ำมันตับปลา ในปริมาณสูงอาจส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันและลดความสามารถในการต่อสู้กับเชื้อโรคของร่างกาย โดยเฉพาะกับผู้ที่ผ่านการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะหรือผู้สูงอายุ
เมื่อรับประทาน น้ำมันตับปลา ในปริมาณมาก ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น
น้ำมันตับปลา มีความปลอดภัยเมื่อฉีดเข้าเส้นเลือดดำ ในระยะเวลาอันสั้น
น้ำมันตับปลา ได้รับยืนยันความปลอดภัยเมื่อใช้ติดต่อกันเป็นเวลา 1-4 สัปดาห์
ข้อควรระวังและคำเตือน:
เด็ก: ปลอดภัยสำหรับการรับประทาน
ช่วงตั้งครรภ์และให้นมบุตร: ปลอดภัยสำหรับการรับประทาน
การบริโภคน้ำมันตับปลา จากแหล่งอาหารบางชนิดอาจไม่ปลอดภัย เนื้อปลาบางชนิด เช่น ฉลาม ปลาอินทรี และปลาแซลมอนที่เลี้ยงในฟาร์ม อาจปนเปื้อนสารปรอท สารเคมีจากอุตสาหกรรมหรือสารอื่นๆ จากสิ่งแวดล้อมได้ ซึ่งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากน้ำมันตับปลาไม่มีสารเคมีเหล่านี้ปนเปื้อน
ผลข้างเคียง:
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากน้ำมันตับปลา
- เรอ
- มีกลิ่นปาก
- อาการแสบร้อนกลางอก
- อาการคลื่นไส้
- อุจจาระร่วง
- ผื่นคัน
- เลือดกำเดาไหล
รับประทานน้ำมันตับปลา พร้อมอาหารหรือแช่เย็น สามารถทำลดผลข้างเคียงลงได้
ในบางราย อาจได้รับผลข้างเคียงบางอย่างที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลข้างเคียงใด ๆ โปรดปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรก่อนใช้น้ำมันตับปลา
ปฏิกิริยาระหว่างยา:
น้ำมันตับปลาอาจมีปฏิกิริยาระหว่างยาหรือพยาธิสภาพปัจจุบัน ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรก่อนใช้
อาการทางสุขภาพต่อไปนี้อาจมีปฏิกิริยากับน้ำมันตับปลา :
- โรคไบโพล่าร์ หรือ โรคอารมณ์สองขั้ว
- โรคตับ
- ภาวะซึมเษร้า
- โรคเบาหวาน
- มะเร็งลำไส้ใหญ่ชนิดถ่ายทอดทางพันธุกรรม
- ความดันโลหิตสูง
- เอชไอวีและเอดส์ หรืออาการอื่นๆ ที่อันเนื่องมาจากระบบภูมิคุ้มกันลดลง
- การฝังเครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจ เพื่อรักษาอาการเกี่ยวกับการเต้นของหัวใจ
- อาการแพ้ปลาหรืออาการทะเล
ผลิตภัณฑ์ที่อาจมีปฏิกิริยาระหว่างกับน้ำมันตับปลา ได้แก่:
- ผลิตภัณฑ์ยาคุมกำเนิด: ยาคุมกำเนิดอาจลดประสิทธิภาพของน้ำมันตับปลา โดยการลดระดับไขมันในเลือด เช่น ethinyl estradiol and levonorgestrel (Triphasil), ethinyl estradiol and norethindrone (Ortho-Novum 1/35, Ortho-Novum 7/7/7) และอื่นๆ
- ผลิตภัณฑ์ยาลดความดันโลหิต: น้ำมันตับปลา (Fish oil) มีประสิทธิภาพลดความดันโลหิต เมื่อรับประทานน้ำมันตับปลาร่วมกับยาลดความดันโลหิตอาจะส่งผลให้ความดันโลหิตลดต่ำจนเกินไป เช่น captopril (Capoten), enalapril (Vasotec), losartan (Cozaar), valsartan (Diovan), diltiazem (Cardizem), Amlodipine (Norvasc), hydrochlorothiazide (HydroDiuril), furosemide (Lasix) และอื่นๆ
- ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับยาลดความอ้วน (Xenical หรือ Alli) There is some concern that orlistat (Xenical, Alli) อาจลดการดูดซึมของน้ำมันตับปลาเมื่อรับประทานร่วมกัน เพื่อหลีกเลี่ยงปฏิกิริยาระหว่างกัน ควรรับประทานยา Xenical หรือ Alli กับน้ำมันตับปลาห่างกันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
ขนาดยา:
ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำจากแพทย์โดยตรง ปรึกษาแพทย์ประจำตัวหรือแพทย์ก่อนใช้
ขนาดการใช้น้ำมันตับปลาปกติอยู่ที่เท่าไร:
ปริมาณน้ำมันตับปลาที่แนะนำในการรับทานอย่างน้อยคือ 2 มื้อ ต่อสัปดาห์
สำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจ: รับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันตับปลาโอเมก้า 3 ปริมาณ 1 กรัม ต่อวัน และเมื่อระดับไตรกลีเซอไรด์สูงขึ้น ให้รับประทานน้ำมันตับปลาโอเมก้า 3 ปริมาณ 2 กรัมต่อวันและไม่เกิน 4 กรัมต่อวัน
การรับประทานน้ำมันตับปลามากกว่า 3 กรัมต่อวัน อาจช่วยให้เลือดไม่แข็งตัวแต่อาจเพิ่มความเสี่ยงของอาการเลือดออกผิดปกติ
น้ำมันตับปลามีจำหน่ายในรูปแบบใด:
น้ำมันตับปลาอาจมีจำหน่ายในรูปแบบต่อไปนี้:
- แคปซูลเจล น้ำมันตับปลา (Fish oil) ขนาด 1000 มิลลิกรัม