เกลือคือหนึ่งในส่วนผสมสำคัญของทุกมื้ออาหารซึ่งไม่น่าเป็นกังวลนัก แต่คุณพ่อคุณแม่หลายท่านที่มักจะเพิ่มเกลือลงในอาหารของเด็กเพื่อเพิ่มรสชาติให้เด็กสนใจรับประทาน อย่างไรก็ตาม เด็กๆ ต้องการเกลือในมื้ออาหารจริงๆ เหรอ
เด็กๆ ของคุณต้องการเกลือหรือไม่
ในมื้ออาหารของเด็กๆ ไม่ได้ต้องการเกลือเพิ่มเพราะเด็กต้องการเกลือในปริมาณน้อยมากกว่า 1 กรัม (โซเดียม 0.4 กรัม) ต่อวันจนกว่าจะอายุครบหนึ่งปี ไตของเด็กๆ ยังไม่มีการทำงานเพื่อเกลือที่มากกว่า 1 กรัม
ในช่วงหกเดือนแรก เด็กๆ ได้รับเกลือที่เพียงพอจากนมแม่และนมสำหรับเด็กทารกแล้ว
เมื่อเด็กๆ เริ่มรับประทานอาหารเหลว ก็ยังไม่ควรใส่เกลือในอาหารที่ทำเองหรือเพื่อเพิ่มรสชาติ
เด็กวัยหัดเดินยังต้องการเกลือในปริมาณน้อย เมื่อเด็กอายุครบหนึ่งปี ควรรับประทานเกลือในปริมาณ 2 กรัมต่อวัน (โซเดียม0.8)จนกว่าจะอายุครบ3 ปี
เคล็ดลับ 3 ประการเพื่อลดเกลือในอาหารเด็ก
ตรวจสอบปริมาณเกลือในผลิตภัณท์ก่อนซื้อ
ควรทำอาหารให้เด็กๆ เองเพื่อลดปริมาณเกลือและสารปรุงแต่งอื่นๆ ที่อาจมีในอาหาร หรือหากว่าต้องการซื้ออาหารให้เด็กๆ ก็ต้องตรวจสอบฉลากก่อน โดยมีเกณท์จากอายุของเด็กๆ ว่าควรรับประทานเกลือในแต่ละวันมากเท่าใด :
ช่วงอายุ 1 – 3 ปี: 2 กรัมต่อวัน (เท่ากับโซเดียม 0.8 กรัม)
ช่วงอายุ 4 – 6 ปี : 3 กรัมต่อวัน (เท่ากับโซเดียม 1.2 กรัม)
ช่วงอายุ 7 – 10 ปี : 5 กรัมต่อวัน (เท่ากับโซเดียม 2 กรัม)
ช่วงอายุ 11 ปีขึ้นไป : 6 กรัมต่อวัน (เท่ากับโซเดียม 2.4 กรัม)
ต้องทำให้แน่ใจว่าเด็กๆ ไม่ได้รับเกลือในปริมาณที่มกินไปและไม่เพิ่มปริมาณของเกลือในอาหาร โดยแนะนำว่าเด็กๆ ควรลดเหลือลงเมื่อโตขึ้น
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีเกลือสูง
ไม่ควรให้เด็กๆ ได้รับโซเดียมในปริมาณที่มากเกินไป หรือควบคุมปริมาณที่เด็กๆ จะได้รับใน :
บิสกิต
แครกเกอร์
ซุป
น้ำกราวี่
ซอส
พิซซ่า
เบคอน
ขนมกรุบกรอบ
ชีส
น้ำกราวี่สำเร็จรูป
แฮม
โอลีฟ
แตงกวาดอง
กุ้ง
ไส้กรอกซาลามี่
ถั่วอบกรอบใส่เกลือ
ปลาย่างเกลือ
ปลาและเนื้อรมควัน
ระวังปริมาณเกลือในอาหารที่ดูดีต่อสุขภาพ
- ผลิตภัณท์จากถั่วเหลืองเช่นเต้าหู้หรือมิโสะ
- ชีสเช่น American, Roquefort, Parmesan cheese, blue, feta และ cottage cheeses.
- เครื่องดื่มที่มีนมเป็นส่วนประกอบเช่น buttermilk
- อาหารเอเชียที่ทำจากเทริยากิหรือซอสถั่วเหลือง (หรือไม่ก็ควบคุมปริมาณซอส)
- ซีเรียลที่มีโซเดียม 200 มิลลิกรัมหรือมากกว่า
การเตรียมอาหารให้เด็กๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพื่อให้ได้อาหารที่เหมาะสมจะต้องรู้ปริมาณที่เหมาะสมในการเจริญเติบโตเพื่อให้เด็กๆ มีสุขาพที่ดี