สรรพคุณของฟอสฟาติดิลคอลีน:

ฟอสฟาติดิลคอลีนเป็นสารเคมีที่มีอยู่ใน ไข่ถั่ วเหลือง มัสตาร์ด เมล็ดทานตะวัน และอาหารอื่น ๆ ฟอสฟาติดิลคอลีนใช้สำหรับรักษา:

• ไวรัสตับอักเสบซี
• โรคลำไส้อักเสบ (ลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นแผล)
• โรคตับอักเสบเอ
• การล้างไตในช่องท้อง
• อาการความผิดปกติของการเคลื่อนไหวร่างกายที่ไม่สามารถควบคุมได้
• โรคตับที่เกิดจากแอลกอฮอล์
• ลดไขมัน
• ไวรัสตับอักเสบบี
• คอเลสเตอรอล
• เนื้องอกไขมัน
• การสูญเสียความจำ
• ไขมันที่หน้า
• ความวิตกกังวล
• กลาก
• โรคถุงน้ำดี
• โรคซึมเศร้า
• ความผิดปกติของแขนและขากรรไกร
• การลดน้ำหนัก
• อาการก่อนมีประจำเดือน (PMS)
• โรคอัลไซเมอร์
• ภูมิคุ้มกันต่ำ
• ป้องกันริ้วรอย
• อื่น ๆ

กลไกการออกฤทธิ์

งานวิจัยเกี่ยวกับกลไกการออกฤทธิ์ของฟอสฟาติดิลคอลีนยังมีไม่เพียงพอ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ร่างกายสร้างสารเคมีในสมองเรียกว่า อะซิทิลคอลีน (Acetylcholine) จากฟอสฟาติดิลคอลีน ซึ่งสำคัญกับหน่วยความจำ และหน้าที่ต่าง ๆ ในร่างกาย ฟอสฟาติดิลคอลีนอาจเพิ่มจำนวนอะซิทิลคอลีนเพื่อช่วยในเรื่องความจำและโรคอัลไซเมอร์ นักวิจัยบางคนเชื่อว่า ฟอสฟาติดิลคอลีนทำหน้าที่เหมือนผงซักฟอกในการช่วยทำลายไขมัน

รูปแบบหนึ่งของฟอสฟาติดิลคอลีน

โพลีอันเซทจูเรทเต็ท ฟอสฟาติดิลคอลีน (Polyunsaturated Phosphatidylcholine) ช่วยป้องกันการเกิดพังผืดของตับ และความเสียหายของตับที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ แม้ว่าข้อมูลที่ได้ ยังไม่มีความชัดอย่างสมบูรณ์

ข้อควรระวังและคำเตือน

สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้ฟอสฟาติดิลคอลีน

ปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในกรณีที่:

• ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในขณะให้นมบุตรนั้น ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
• กำลังใช้ยาอื่น ๆ รวมถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์
• มีอาการแพ้สารในฟอสฟาติดิลคอลีน ยาอื่น ๆ หรืออาหารเสริมอื่น ๆ
• มีโรคอื่น ๆ มีความผิดปกติหรือพยาธิสภาพอื่น ๆ
• มีอาการแพ้อื่น ๆ เช่น แพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูดหรือเนื้อสัตว์ต่าง ๆ

ข้อกำหนดสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากฟอสฟาติดิลคอลีนมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อกำหนดยาอื่น ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย การใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต้องมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

ฟอสฟาติดิลคอลีนปลอดภัยหรือไม่:

ฟอสฟาติดิลคอลีนอาจปลอดภัยเมื่อรับประทาน หรือฉีดใต้ผิวหนังในระยะสั้น ไม่มีข้อมูลความปลอดภัยในการใช้งานในระยะยาว

ข้อควรระวังและคำเตือนพิเศษ:

การตั้งครรภ์และให้นมบุตร: ไม่มีข้อมูลที่เชื่อถือได้เพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้ฟอสฟาติดิลคอลีน เพื่อความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการใช้ฟอสฟาติดิลคอลีนในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ผลข้างเคียง:

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดฟอสฟาติดิลคอลีน

บางครั้ง เมื่อรับประทานฟอสฟาติดิลคอลีน อาจทำให้มี เหงื่อออกมาก และทำให้รู้สึกกระวนกระวายและท้องร่วง

เกิดการระคายเคือง บวมแดง มีอาการคัน ไหม้ ช้ำ และปวดที่บริเวณที่ฉีดยา ผลข้างเคียงเหล่านี้ จะหายไปหลังจาการใช้เป็นเวลาหลายวัน ถ้าฉีดฟอสฟาติดิลคอลีนเข้าไปในเนื้องอกไขมัน (Lipoma) โดยตรง อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาอักเสบ ที่อาจทำให้เนื้องอกเป็นเส้นใยมากขึ้น ในกรณีผู้ป่วย รายหนึ่ง ต้องผ่าตัดนำ เนื้องอกไขมัน ออกมา ในบางรายอาจได้รับผลข้างเคียงบางอย่างที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น หากสงสัยเกี่ยวกับผลข้างเคียงใด ๆ   โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนใช้

ปฏิกิริยาระหว่างยา:

ฟอสฟาติดิลคอลีนอาจมีปฏิกิริยากับยาหรือพยาธิสภาพปัจจุบัน ปรึกษากับแพทย์ก่อนใช้

ผลิตภัณฑ์ที่อาจมีผลต่อฟอสฟาติดิลคอลีนได้แก่:

• ยาแอนติ-คอลินเนอร์จิก (Anticholinergic)

ยาลดความอ้วนบางชนิดหรือยาต้านอาการลิ่มเลือด ซึ่งฟอสฟาติดิลคอลีนอาจเพิ่มสารเคมีที่ลดประสิทธิภาพยาเหล่านี้ได้ เช่น อะโทรไพน์ สกอโพลาไมด์ (Atropine Scopolamine) และยาที่ใช้ในการแพ้ (Antihistamines) และภาวะซึมเศร้า (Antidepressants)

• สารฟอสฟาติดิลคอลีนอาจเพิ่มสารเคมีในร่างกายที่เรียกว่า อะซิทีลคอลีน (Acetylcholine) ที่ใช้สำหรับยับยั้ง สารอะซิทิลคอลีนสเตอร์เลส (Acetylcholinesterase) ที่เรียกว่า อัลไซเมอร์ (Alzheimer) หากใช้ ฟอสฟาติดิลคอลีนร่วมด้วย ยาสำหรับโรคอัลไซเมอร์อาจเพิ่มผลกระทบและผลข้างเคียงของยาสำหรับโรคอัลไซเมอร์

ยาบางชนิดที่มีสารยับยั้งเอนไซม์ ได้แก่ โดเนเพซิล, อริเซพท์ (Aricept), ทาคริน (Tacrine). คิดเนกซ์ (Cognex), ริวาสติกไมน์ (Rivastigmine) หรือเอกเซลลอน (Exelon) และการันตาไมด์ (Galantamine) หรือเรมินิล ราซาไดน์ (Reminyl Razadyne)

• ยาคอลินเนอร์จิค (Cholinergic)

ฟอสฟาติดิลคอลีนอาจเพิ่มสารเคมีในร่างกายที่เรียกว่าอะซิทีลคอลีน สารเคมีนี้คล้ายกับยาบางชนิดที่ใช้รักษา

โรคต้อหิน โรคอัลไซเมอร์ และอาการอื่น ๆ การใช้ฟอสฟาติดิลคอลีนกับยาเหล่านี้อาจเพิ่มโอกาสของอาการข้างเคียง

เช่น ยาพิโลคาร์ไพน์ (Pilocarpine) หรือพิโลคาร์ (Pilocar) และอื่น ๆ

ขนาดยา:

ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำจากแพทย์โดยตรง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้

ขนาดยาฟอสฟาติดิลคอลีนตามปกติคือเท่าใด

ขนาดยาต่อไปนี้ได้รับการศึกษาในงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์:

โดยการรับประทาน:

สำหรับไวรัสตับอักเสบซี: 1.8 lecithin ซึ่งประกอบด้วยฟอสฟาติดิลคอลีนซึ่งใช้เป็นประจำทุกวันด้วยยาที่เรียกว่า อินทอร์เฟรอน (Interferon)

ขนาดการใช้ฟอสฟาติดิลคอลีนปกตินั้นอาจแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอายุ สุขภาพและพยาธิสภาพอื่น ๆ การใช้ฟอสฟาติดิลคอลีนไม่ปลอดภัยเสมอไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทราบขนาดยาที่เหมาะสมก่อนใช้

ฟอสฟาติดิลคอลีนมีจำหน่ายในรูปแบบใดบ้าง

ฟอสฟาติดิลคอลีนอาจมีจำหน่ายอยู่ในรูปแบบยาต่อไปนี้:

• ซอฟท์เจล
• ยาน้ำ (รวมกับส่วนผสมอื่น ๆ)