การใช้
โอ๊ตใช้ทำอะไร
โอ๊ตคือพืชชนิดหนึ่ง เมล็ดและรำ ใช้รักษาและป้องกันโรคทางแพทย์ต่างๆ ดังนี้:
- ความดันโลหิตสูง
- คอเลสเตอรอลสูง
- เบาหวาน
- ภาวะลำไส้แปรปรวน
- โรคถุงผนังลำไส้ใหญ่
- การอักเสบของระบบทางเดินอาหาร
- ท้องเสีย
- ท้องผูก
- โรคหัวใจ
- นิ่วในถุงน้ำดี
- มะเร็งลำไส้ใหญ่
- มะเร็งกระเพาะอาหาร
- ปวดข้อ (โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์)
- อาการอ่อนเพลีย
- ภาวะประสาทเปลี่ย
- ระดับกรดยูริกสูง
- อาการวิตกกังวล ตื่นเต้น และโรคเครียด
- กระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน
- โรคไต
- ความผิดปกติของเนื้อเยื่อ
- โรคผิวหนัง
- การเป็นพิษจากไขมันเนื่องจากการรักษาเอชไอวี
- ใช้เป็นยาบำรุง
- อาการทางผิวหนัง เช่น ระคายเคือง แห้งกร้าน ผิวมัน ผิวหนังอักเสบและผื่นระคายสัมผัส
- โรคสุกใส
- โรคข้อเสื่อม
- โรคตับ
บางครั้ง ใช้โอ๊ตผสมน้ำล้างเท้าเพื่อรักษาอาการเท้าเย็นหรืออ่อนเพลีย
นอกจากนี้ ใบและลำต้น (ฟาง) ของโอ๊ต สามารถนำมาใช้รักษาไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ (H1N1) บรรเทาอาการไอ โรคเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ ปวดข้อ โรคตา อาการบวมน้ำ โรคเกาต์และโรคผิวหนังพุพอง.
โอ๊ตอาจสามารถใช้รักษาอาการอื่นๆ ได้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์
ผลที่ได้
โอ๊ตสามารถช่วยปรับระดับคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือด โดยทำให้รู้สึกอิ่มไว ฟางข้าวโอ๊ตมีประสิทธิภาพในการปิดกั้นการดูดซึมเพื่อบรรเทาอาการของโรคหัวใจ คอเลสเตอรอลสูงและเบาหวาน หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์
ข้อควรระวังและคำเตือนการใช้
สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้โอ๊ต
ควรปรึกษาหรือพบกับแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพร ถ้าอยู่ในอาการหรือลักษณะดังต่อไปนี้:
- หญิงมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากในระหว่างการมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรจึงควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
- อยู่ในระหว่างรับประทานยาชนิดอื่น รวมไปถึงยาที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา
- หากเคยมีประวัติแพ้ยาชนิดใดชนิดหนึ่งของโอ๊ตหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ
- หากมีอาการเจ็บป่วย ความผิดปกติ หรือสภาพทางการแพทย์อื่นๆ
- หากเคยมีประวัติการแพ้ต่างๆ แพ้อาหาร แพ้สีผสมอาหาร แพ้สารกันบูด หรือแพ้เนื้อสัตว์
กฎระเบียบสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่ายาชนิดอื่นๆ จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องศึกษาให้มากเพื่อความปลอดภัยในการใช้ คุณประโยชน์ของการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรนี้ต้องมีมากกว่าความเสี่ยงก่อนการใช้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาแพทย์
โอ๊ตปลอดภัยหรือไม่
หญิงมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร:
ข้าวโอ๊ตปลอดภัยสำหรับการรับประทานในระหว่างการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้โอ๊ต
การรับประทานข้าวโอ๊ตอาจทำให้มีแก๊สในกระเพาะอาหารและท้องอืด เพื่อลดผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น ควรเริ่มรับประทานในปริมาณที่น้อยและเพิ่มขึ้นช้าๆ ตามปริมาณที่ต้องการ
จากอาการผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีผลข้างเคียง หากมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียงของยา ควรปรึกษาแพทย์
ปฏิกิริยาระหว่างกันของยา
ปฏิกิริยาที่จะได้รับเมื่อใช้ยาอื่นควบคู่กับโอ๊ต
โอ๊ตอาจมีปฏิกิริยากับยาที่ใช้อยู่ควบคู่กัน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้
อาการทางสุขภาพ เช่น:
- การกลืนและการเคี้ยวอาหารลำบาก: เมื่อเคี้ยวข้าวโอ๊ตไม่ละเอียดอาจทำให้เกิดการอุดตันของลำไส้
- ความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร รวมทั้งหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้: ปัญหาของระบบทางเดินอาหารอาจเพิ่มระยะเวลาในการย่อยอาหารและอาจทำให้ข้าวโอ๊ตอุดตันในลำไส้
ขนาดยา
ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำจากแพทย์โดยตรง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาเสมอ
ขนาดปกติของการใช้ข้าวโอ๊ตอยู่ที่เท่าไร
ผลิตภัณฑ์ข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ด
- สำหรับการรักษาภาวะคอเลสเตอรอลสูฃ: ปริมาณที่แนะนำสำหรับการรับประทานคือ รำข้าวโอ๊ตหรือโอ๊ตมีลล์ 56-150 กรัม จะประกอบไปด้วย เบต้ากลูแคน (ใยอาหาร) 3.6-10 กรัม รับประทานทุกวัน คืออาหารไขมันต่ำ
รับประทานข้าวโอ๊ตเควกเกอร์ วันละ 40 กรัม (1 ถ้วยครึ่ง) จะประกอบไปด้วย เบต้ากลูแคน 2 กรัม
รับประทานแชร์ริโอส์ วันละ 30 กรัม (1ถ้วย) จะประกอบไปด้วย เบต้ากลูแคน 1 กรัม
- สำหรับการรักษาระดับคลูโคสในเลือดต่ำ ในผู้ป่วยเบาหวานระดับที่: รับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูงทุกวัน เช่น ผลิตภัณฑ์รำข้าวโอ๊ต จะประกอบไปด้วยใยอาหาร 28 กรัม รำข้าวโอ๊ต 38 กรัม หรือ โอ๊ตมีลล์ 75 กรัม จะประกอบไปด้วยเบต้ากลูแคน 3 กรัม
สารสกัดข้าวโอ๊ต:
ดื่มน้ำสารสกัดข้าวโอ๊ตประมาณ 2-3 ช้อนชา หรือ 1 ถ้วย ผสมกับน้ำต้มสุก และทิ้งไว้ 15 นาทีก่อนรับประทาน
สารากัดแอลกอฮอล์ข้าวโอ๊ต:
ปริมาณการใช้สารสกัดแอลกอฮอล์ข้าวโอ๊ต อยู่ที่ 3-5 มิลลิลิตร 3 ครั้งต่อวัน
น้ำข้าวโอ๊ตเข้มข้น:
การใช้น้ำข้าวโอ๊ตเข้มข้นเพื่อผสมน้ำอาบ ใช้ข้าวโอ๊ตปริมาณ 1 ปอนด์ ต้มกับน้ำเดือด 2/4 แกลลอน และต้มทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
ปริมาณการใช้ข้าวโอ๊ตอาจแตกต่างกันไปในแต่ละผู้ป่วย ซึ่งปริมาณยาที่ใช้จะขึ้นอยู่กับช่วงอายุ สุขภาพ และปัจจัยอื่นๆ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอาจไม่ปลอดภัยเสมอไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อปริมาณยาที่เหมาะสมสำหรับการรับประทาน
ข้าวโอ๊ตมีจำหน่ายในรูปแบบใดบ้าง
ข้าวโอ๊ตอาจมีจำหน่ายในรูปแบบต่อไปนี้:
- สารสกัดแอลกอฮอล์ข้าวโอ๊ต
- สารสกัดข้าวโอ๊ต
Oats. http://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-814-oats.aspx?activeingredientid=814&activeingredientname=oats. Accessed November 28, 2016
Oats. http://www.herbal-supplement-resource.com/oat-straw.html. Accessed November 28, 2016