แพทย์แนะ กำหนดมาตราฐานไนโตรซามีนในปลาร้า เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
25 เมษายน 2561, กรุงเทพ --- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็ง มข. แนะควรเพิ่มหน่วยงานด้านสาธารณสุขร่วมเป็นคณะกรรมการกำหนดมาตรฐานปลาร้า เพื่อกำหนดค่ามาตรฐานสารก่อมะเร็ง “ไนโตรซามีน” ให้ปลอดภัยกับผู้บริโภค ลดมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ำดีในภาคอีสาน
รศ.นพ.วัชรพงศ์ พุทธิสวัสดิ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ำดี อดีตผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า จากการที่มีประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องการกําหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร : ปลาร้า ตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 เพื่อส่งเสริมสินค้าเกษตรให้ได้คุณภาพ มาตรฐาน และปลอดภัย ซึ่งมีผลบังคับใช้หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมานั้น ตนเห็นว่ายังไม่ครอบคลุมมาตรฐานด้านความปลอดภัยจึงควรมีการพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง
รศ.นพ.วัชรพงศ์ กล่าวว่า ปลาร้าถือว่าเป็นการถนอมอาหารของคนไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งจากการออกประกาศของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตรในครั้งนี้นั้นมีข้อกำหนดเรื่อง สี กลิ่น กลิ่นรส และความสะอาดแล้ว จึงควรมีการเพิ่มเรื่องมาตรฐานของปลาร้าในส่วนของปริมาณ “สารไนโตรซามีน” ซึ่งเป็นสารที่พบใน ปลาร้า ปลาจ่อม จากงานวิจัยพบว่าสารไนโตรซามีนก่อให้เกิดโรคมะเร็งตับ มะเร็งหลอดอาหาร และมะเร็งกระเพาะอาหาร และหากมีพยาธิใบไม้ในตับในอาหารร่วมกับไนโตรซามีน ก็ยิ่งทำให้เกิดมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ำดีมากยิ่งขึ้น โดยในพื้นที่ภาคอีสานมีการบริโภคปลาร้าแบบสุกๆ ดิบๆ มากกว่าภาคอื่นในประเทศไทยจึงมีจำนวนผู้ป่วยมากที่สุด
รศ.นพ.วัชรพงศ์ กล่าวว่า การกำหนดมาตรฐานปลาร้านั้น ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตรควรเพิ่มผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขเข้าไปร่วมกำหนดมาตรฐานปลาร้าด้วย เพื่อกำหนดมาตรฐานด้านความปลอดภัยต่อสุขภาพ ไม่ใช่การกำหนดเรื่องลักษณะทางกายภาพ สี กลิ่น กลิ่นรส เท่านั้น
บทความอื่นๆ
แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ให้ความรู้โรคระบบทางเดินหายใจแก่ประชาชน
แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ เปิดตัวโครงการให้ความรู้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินหายใจที่สามารถ
WHO เฝ้าระวัง ปอดอักเสบ ในทุกวัย
WHO ออกแถลงการณ์ พบกลุ่มผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ-ปอดบวม ระบาดในเด็กมากขึ้นทางตอนเหนือของจีน โดยหวั่นกันว่า อาจเกิดการระบาดใหญ่อีกระลอก พร้อมเรียกร้องให้จีนเผยข้อมูล
ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ผนึกกำลังภาครัฐ - นักวิชาการแพทย์ เร่งขับเคลื่อนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค
เนื่องในวันที่ 10 พฤศจิกายน ของทุกปีเป็น “วันแห่งการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค