มะเร็งหลังโพรงจมูก…น่ากลัวติดอันดับ 1 ใน 10
มะเร็ง คำสั้นๆ แต่น่ากลัวมาก ใครเป็นถือว่าโชคร้ายเพราะรักษาหายยาก แถมบางชนิดก็หาสาเหตุไม่เจอ สำหรับมะเร็งหลังโพรงจมูก น่ากลัวกว่าที่คิด เพราะตรวจพบยากมาก เมื่อมาถึงมือแพทย์อาจเป็นระยะสุดท้ายแล้ว วันนี้เรามาทำความรู้จักและสังเกตสัญญาณเตือนโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกกัน
จากข้อมูลของ นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ บอกว่า โรคมะเร็งหลังโพรงจมูก จัดเป็นมะเร็งที่พบบ่อยใน 10 อันดับของโรคมะเร็ง ประเทศไทยพบโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกในผู้หญิงมีสถิติ 1.6 ต่อประชากร 1 แสนคนต่อปี ในชาย 4.5 ต่อประชากร 1 แสนคนต่อปี ทั้งนี้พบอุบัติการณ์ในผู้ชายสูงกว่าผู้หญิง ส่วนมาก อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 50 ปี ถึง 60 ปี ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคมะเร็งดังกล่าวจนกระทั่งมาพบแพทย์ในระยะที่มะเร็งลุกลามไปมากแล้ว
และข้อมูลจาก ด้านนายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า มะเร็งหลังโพรงจมูก เป็นโรคมะเร็งชนิดที่ตรวจพบได้ค่อนข้างยาก อาการหลักๆ ได้แก่
- ผู้ป่วยจะมีอาการคัดจมูก เจ็บคอหรือเหมือนคนเป็นหวัดเรื้อรัง
- มีก้อนที่คอ
- มีเลือดกำเดาไหลเป็นประจำ
- มองเห็นภาพซ้อน
- หน้าชาด้านใดด้านหนึ่งหูอื้อ
- การติดเชื้อที่หู
- อาการปวดหัว
- การสูญเสียการได้ยิน
- ปากเปิดยาก
สาเหตุของมะเร็งหลังโพรงจมูก
มะเร็งชนิดนี้ได้รับการเชื่อมโยงกับไวรัส Epstein-Barr (EBV) อาจมีปัจจัยเสี่ยง ในด้านพฤติกรรมร่วมด้วย เช่น รับประทานอาหารหมักดองมากเกินไป สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น แม้ว่าการติดเชื้อ EBV เป็นเรื่องปกติ แต่ทุกคนที่มี EBV จะไม่ได้รับเชื้อมะเร็งดังกล่าว ในสหรัฐอเมริกาคนส่วนใหญ่ที่เคยติดเชื้อ EBV ไม่มีปัญหาระยะยาว นักวิทยาศาสตร์ยังคงค้นคว้าเรื่องนี้อยู่ แต่อาจเกี่ยวข้องกับสารพันธุกรรม (DNA) จากไวรัสที่มีผลต่อดีเอ็นเอในเซลล์ของ nasopharynx การเปลี่ยนแปลงในดีเอ็นเอก่อให้เกิดเซลล์ที่จะเติบโตและแบ่งได้ผิดปกติทำให้เกิดมะเร็ง
แนวโน้มที่จะเป็นมะเร็งชนิดนี้
- เป็นเพศชาย
- รับประทานอาหารที่อุดมด้วยปลาและเนื้อสัตว์ที่มีเกลือเค็ม
- มีประวัติครอบครัวเกี่ยวกับมะเร็งหลังโพรงจมูก
- มียีนบางอย่างที่เชื่อมโยงกับการพัฒนามะเร็ง
- มีการติดเชื้อ EBV
- ควัน
- ดื่มแอลกอฮอล์มาก
- ฝุ่นไม้หรือสารเคมีที่เรียกว่าฟอร์มาลดีไฮด์
ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นหากกินอาหารที่อุดมด้วยปลาและเนื้อสัตว์ที่มีเกลือเค็ม บุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาจเพิ่มความเสี่ยงแม้ว่าการเชื่อมโยงไปยังไม่ชัดเจน นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่าสารเคมีในสิ่งเหล่านี้สร้างความเสียหายต่อดีเอ็นเอในเซลล์ เพราะฉะนั้น อย่านิ่งนอนใจกับอาการเตือนต่าง ๆ หมั่นตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงปัจจัยส่งเสริมที่อาจเป็นสาเหตุของมะเร็งหลังโพรงจมูก เช่น อาหารปิ้ง ย่าง รมควัน อาหารหมักดอง ควันเขม่าพิษ สารระเหยต่าง ๆ รวมทั้งควรงดดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ ตลอดจนหากมีอาการเตือนดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอย่างไรแล้ว “การป้องกัน ย่อมดีกว่าการรักษา”
วิธีการรักษา
จะใช้รังสีรักษา ถ้าเป็นในระยะเริ่มแรกจะรักษาโดยการฉายรังสีอย่างเดียว แต่ถ้าเป็นระยะลุกลามการรักษาจะเป็นการฉายรังสีร่วมกับการให้ยาเคมีบำบัดควบคู่กันไป สำหรับการผ่าตัดไม่สามารถใช้วิธีนี้ในการรักษาโดยตรง เนื่องจากมะเร็งหลังโพรงจมูกมีขอบเขตใกล้กับอวัยวะที่สำคัญ อาทิ เส้นเลือดแดงใหญ่ที่เลี้ยงคอและสมอง เป็นต้น ทั้งนี้โรคมะเร็งหลังโพรงจมูกหากตรวจพบเร็วจะสามารถรักษาให้หายเร็วและหายขาด
ที่มาภาพ : http://cigarette-deals.com/articles/men-smoke-cigarettes-to-control-their-emotions
บทความอื่นๆ
แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ให้ความรู้โรคระบบทางเดินหายใจแก่ประชาชน
แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ เปิดตัวโครงการให้ความรู้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินหายใจที่สามารถ
WHO เฝ้าระวัง ปอดอักเสบ ในทุกวัย
WHO ออกแถลงการณ์ พบกลุ่มผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ-ปอดบวม ระบาดในเด็กมากขึ้นทางตอนเหนือของจีน โดยหวั่นกันว่า อาจเกิดการระบาดใหญ่อีกระลอก พร้อมเรียกร้องให้จีนเผยข้อมูล
ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ผนึกกำลังภาครัฐ - นักวิชาการแพทย์ เร่งขับเคลื่อนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค
เนื่องในวันที่ 10 พฤศจิกายน ของทุกปีเป็น “วันแห่งการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค