ถือศีลอดอย่างไร ไม่ทำลายสุขภาพ
เดือนรอมฎอม เป็นเดือนของการถือสินอด ผู้ที่ถือศีลจะต้องอดอาหาร เครื่องดื่ม อดกลั้นจากการทำความชั่วทั้งปวง แม้แต่นึกคิดที่จะทำผิดก็ไม่ได้ การถือศีลอดของพี่น้องชาวมุสลิมจะต้องทำกันตั้งแต่รุ่งสางจนตะวันลับขอบฟ้าในเดือนที่ 9 ตามปฏิทินทางจันทรคติของอิสลามของทุกปีเป็นระยะเวลา 29 ถึง 30 วัน
ในระหว่างการถือศีลอด ชาวมุสลิมทุกท่านควรเตรียมความพร้อมทั้งสุขภาพกายและใจ เนื่องจากการถือศีลอดเป็นช่วงที่ร่างกาย โดยเฉพาะกระเพาะอาหารและอวัยวะในการย่อยอาหารทำงานลดลง หลังจากที่ได้ทำงานหนักมานานตลอดทั้งปี และเว็บไซต์เช็คสุขภาพก็อยากจะแนะนำพี่น้องชาวมุสลิมให้ถือศีลอดแบบไม่ทำลายสุขภาพ และส่งผลดีทั้งกายและใจ ดังต่อไปนี้
รับประทานอาหารก่อนรุ่งสาง
ท่านที่ถือศีลอดจะต้องตื่นมารับประทานอาหารก่อนรุ่งสาง เพื่อจะไม่เป็นผลเสียต่อสุขภาพ และถ้าไม่ตื่นขึ้นมารับประทานอาหารก่อนรุ่งสาง ระดับน้ำตาลในเลือดจะลดต่ำลงมากในช่วงบ่าย จนทำให้มีอาการอ่อนเพลีย ไม่สามารถทำงานหรือกิจวัตรประจำวันได้
รับประทานอาหารครั้งละน้อย ๆ ช่วงละศีลอด
ในช่วงละสินอด ควรรับประทานอาหารแต่เพียงครั้งละน้อย เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว ไม่รับประทานอาหารมาก ๆ ในครั้งแรกทีเดียว เพราะอาจจะทำให้กระเพาะอาหารปรับตัวไม่ทัน และควรใช้เวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง สำหรับการย่อยอาหาร ก่อนเข้านอน เพื่อป้องกันโรคกรดไหลย้อน
ปรึกษาแพทย์เมื่อมีโรคประจำตัว
ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและโรคแผลในกระเพาะอาหาร เป็นต้น ควรรีบปรึกษาแพทย์ในเรื่องการเปลี่ยนมื้อยา หรือปรับขนาดยา และควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
มีภาวะเสี่ยง
บางท่านไม่มีโรคประจำตัว แต่มีภาวะเสี่ยงอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น อายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไป มีน้ำหนักตัวเกินขนาดหรือเป็นคนอ้วน มีคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ มีอาการผิดปกติทางระบบทางเดินอาหาร ท้องเสียบ่อย ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ
หากมีอาการผิดปกติในช่วงถือศีลอด แนะนำให้รีบปรึกษาแพทย์หรือตรวจเช็คสุขภาพที่โรงพยาบาลให้ล้านท่าน เพื่อให้มั่นใจว่าสุขภาพของท่านแข็งแรง พร้อมสำหรับการถือศีลอด หรือหากมีอาการอ่อนเพลียผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อตรวจรักษา
“เช็คสุขภาพ” ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
บทความอื่นๆ
แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ให้ความรู้โรคระบบทางเดินหายใจแก่ประชาชน
แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ เปิดตัวโครงการให้ความรู้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินหายใจที่สามารถ
WHO เฝ้าระวัง ปอดอักเสบ ในทุกวัย
WHO ออกแถลงการณ์ พบกลุ่มผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ-ปอดบวม ระบาดในเด็กมากขึ้นทางตอนเหนือของจีน โดยหวั่นกันว่า อาจเกิดการระบาดใหญ่อีกระลอก พร้อมเรียกร้องให้จีนเผยข้อมูล
ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ผนึกกำลังภาครัฐ - นักวิชาการแพทย์ เร่งขับเคลื่อนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค
เนื่องในวันที่ 10 พฤศจิกายน ของทุกปีเป็น “วันแห่งการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค