รู้หรือไม่ ... ยาแก้โรคซึมเศร้าไม่ได้ช่วยให้หายซึมเศร้าจริง ๆ
8 กุมภาพันธ์ 2562, กรุงเทพ --- ข่าวหมอสั่งจ่ายยาแก้โรคซึมเศร้าให้กับเด็ก 2 ขวบในต่างประเทศเมื่อเร็ว ๆ นี้ สร้างความฮือฮาในบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองทั่วไป แต่รู้หรือไม่ว่า งานวิจัยทางเภสัชกรรมบอกว่า ยาแก้โรคซึมเศร้าใช้ไม่ได้ผลจริง ๆ
รายงานข่าวแจ้งว่า บริษัท GlaxoSmithKline ซึ่งเป็นบริษัทยายักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งในอังกฤษไม่ยอมเปิดเผยและตีพิมพ์ผลการวิจัยล่าสุดของตัวเองที่พบว่า ยาแก้โรคซึมเศร้าใช้ไม่ได้ผล เพราะเกรงว่าจะมีผลกระทบต่อตลาดผู้บริโภคที่ยังใช้ยานี้กันอย่างแพร่หลาย และทำรายได้ให้กับผู้ผลิตเป็นกอบเป็นกำ
ที่ผ่านมามีการทดสอบทางคลินิกใหญ่ 2 ชุด โดยใช้รหัส 329 และ 377 ทดสอบยา Seroxat (Paroxetine) ในกลุ่มผู้ป่วยเด็กและผู้ใหญ่ที่เป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง และผลวิจัยของทั้งสองชุดพบว่า ยาดังกล่าวไม่ได้ผลดีไปกว่ายาหลอกหรือเม็ดน้ำตาล
แม้จะมีผลการวิจัยออกมาแล้วก็ตาม GlaxoSmithKline ยังทราบอีกว่า ยาดังกล่าวมีแนวโน้มจะกระตุ้นให้ผู้ใช้ยาฆ่าตัวตาย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยวัยรุ่น
การค้นพบชนิดเต็มรูปแบบจากงานวิจัยหลายชิ้นที่ทำขึ้นในปี 1998 ได้นำมาถูกเปิดเผยในปีที่ผ่านมา เมื่อหน่วยงานด้านกฎระเบียบเพื่อการดูแลสุขภาพและการแพทย์ ของอังกฤษออกประกาศเลิกใช้ยาดังกล่าวในหมู่ผู้ป่วยเด็ก เพราะมันใช้ไม่ได้ผลจริง
ในขณะเดียวกัน องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ เห็นชอบที่จะให้มีการตรวจสอบการสั่งจ่ายยาแก้โรคซึมเศร้าให้กับเด็ก ๆ อีกครั้ง เพราะยาเหล่านี้ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้กับเด็ก ๆ แต่แพทย์สามารถสั่งยาให้ผู้ป่วยเพื่อช่วยในการบำบัดได้
จากสถิติ ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าในสหรัฐฯ เป็นเยาวชนกว่าร้อยละ 2 และได้รับยาแก้โรคซึมเศร้าจากแพทย์ การใช้ยาแก้โรคซึมเศร้าที่ไม่ไดรับอนุญาตนี้สูงขึ้นร้อยละ 400 ในช่วงปี 1988 และ 1994
องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ยอมรับว่า ยาดังกล่าวมีแนวโน้มเป็นยาหลอกที่ออกฤทธิ์ให้เกิดความคิดอยากฆ่าตัวตาย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันไม่ได้มีตัวเลขที่ระบุว่า มีจำนวนผู้ป่วยเด็กกี่คนที่พยายามฆ่าตัวตายในระหว่างที่ใช้ยาแก้โรคซึมเศร้า
บทความอื่นๆ
แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ให้ความรู้โรคระบบทางเดินหายใจแก่ประชาชน
แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ เปิดตัวโครงการให้ความรู้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินหายใจที่สามารถ
WHO เฝ้าระวัง ปอดอักเสบ ในทุกวัย
WHO ออกแถลงการณ์ พบกลุ่มผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ-ปอดบวม ระบาดในเด็กมากขึ้นทางตอนเหนือของจีน โดยหวั่นกันว่า อาจเกิดการระบาดใหญ่อีกระลอก พร้อมเรียกร้องให้จีนเผยข้อมูล
ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ผนึกกำลังภาครัฐ - นักวิชาการแพทย์ เร่งขับเคลื่อนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค
เนื่องในวันที่ 10 พฤศจิกายน ของทุกปีเป็น “วันแห่งการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค